เจ้าหน้าที่กู้ภัย ตำรวจ และทหาร ได้ร่วมกันขุดค้นซากอาคารโรงเรียนประจำ "อิสลาม อัล โคซินี" ในเมืองซีโดอาร์โจ จังหวัดชวาตะวันออก ประเทศอินโดนีเซีย ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ภายใน
จากข้อมูลของโฆษกตำรวจประจำจังหวัด เหตุการณ์อาคารทรุดตัวเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (29 ก.ย.) ขณะที่กลุ่มนักเรียนกำลังทำพิธีละหมาดในช่วงบ่าย โดยอาคารส่วนดังกล่าวอยู่ระหว่างการขยายโครงสร้างที่ ไม่ได้รับอนุญาต
รายงานล่าสุดระบุว่า มีนักเรียนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 100 คน และอีกหลายสิบคนยังคงติดอยู่ใต้ซากอาคาร โดยนักเรียนส่วนใหญ่ที่ประสบเหตุเป็นเด็กผู้ชายช่วงชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 5 หรือมีอายุระหว่าง 12 ถึง 18 ปี
ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยสามารถดึงผู้รอดชีวิตที่อ่อนแรงและได้รับบาดเจ็บออกมาได้ 8 ราย หลังเหตุการณ์ผ่านไปนานกว่าแปดชั่วโมง ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องส่ง ออกซิเจนและน้ำ เข้าไปยังพื้นที่ซากปรักหักพังเพื่อช่วยประคับประคองชีวิตของนักเรียนที่ยังติดอยู่
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้มองเห็นร่างของผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ซึ่งเป็นสัญญาณว่ายอดผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีก
สุบันดี ผู้ว่าราชการเมืองซิโดอาร์โจ อ้างว่ายังไม่มีการออกใบอนุญาตสำหรับการขยายโรงเรียนประจำดังกล่าวซึ่งมีความสูงสองชั้น เขากล่าวว่า คนงานได้เทคอนกรีตสำหรับชั้นสามแล้ว แต่ "การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ทุกอย่างจึงพังทลาย"
การทำงานของทีมกู้ภัยต้องหยุดชะงักลงชั่วคราวในเวลา 10:15 น. ของวันนี้ (30 ก.ย.) เนื่องจากอาคารคอนกรีตที่ถล่มลงมาเกิดการสั่นไหวอย่างกะทันหัน ทำให้ผู้คนรวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่นำรถพยาบาลมาจอดใกล้จุดเกิดเหตุต้องรีบวิ่งหนีออกมาด้วยความตื่นตระหนกเกรงว่าจะเกิดการทรุดตัวซ้ำ
...
เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เรียกร้องให้ทุกคนในพื้นที่หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้อาคาร โดยปฏิบัติการค้นหากลับมาดำเนินการต่อได้อีกครั้งเมื่อเวลาประมาณ 13:45 น. ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งสอบสวนหาสาเหตุของการทรุดตัวของอาคารในครั้งนี้.
ที่มา BBC