คนหนุ่มสาว กลุ่มเจนซี (Gen Z) ในเปรูออกมาชุมนุมครั้งใหม่ ต่อต้านประธานาธิบดีดีนา โบลัวร์เต สืบเนื่องจากความไม่พอใจเรื่องการปฏิรูประบบบำนาญ รวมถึงปัญหาคอร์รัปชัน ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ และการใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วงตั้งแต่ปี 2022 จนทำให้คะแนนนิยมของผู้นำประเทศตกต่ำถึงขีดสุด

กลุ่มเยาวชนและคนรุ่นใหม่ของเปรูได้รวมตัวกันประท้วงต่อต้านประธานาธิบดี ดีนา โบลัวร์เต อีกครั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากการเดินขบวนในเมืองหลวงกรุงลิมานำไปสู่การปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้มีทั้งตำรวจ ผู้ประท้วง และนักข่าวได้รับบาดเจ็บกว่าสิบราย

การประท้วงปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 20 กันยายน จากการ ปฏิรูประบบบำนาญ ที่กำหนดให้ชาวเปรูทุกคนที่มีอายุเกิน 18 ปี ต้องเข้าร่วมกองทุนบำนาญ แต่แรงขับเคลื่อนที่แท้จริงมาจากความไม่พอใจที่มีต่อประธานาธิบดีโบลัวร์เตและรัฐสภาที่สะสมมาเป็นเวลานาน

ศ. โจ-มารี เบิร์ต ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองเปรูจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ระบุว่า ความไม่พอใจในเปรูอยู่ในระดับต่ำและคุกรุ่นมานานแล้ว โดยมีเชื้อเพลิงจาก เรื่องอื้อฉาวด้านคอร์รัปชัน, ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ, อาชญากรรมที่เพิ่มขึ้น และความโกรธแค้นต่อการขาดความรับผิดชอบกรณี ผู้ประท้วงหลายสิบคนที่ถูกสังหาร โดยกองกำลังความมั่นคงในช่วงที่โบลัวร์เตเข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายปี 2022

รายงานเดือนกรกฎาคมจากสถาบันศึกษาเปรู ชี้ว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโบลัวร์เตอยู่ที่เพียง 2.5% ในขณะที่รัฐสภาอยู่ที่ 3% เท่านั้น นอกจากความไม่สงบในกรุงลิมาแล้ว การประท้วงยังได้ส่งผลกระทบต่อ อุตสาหกรรมเหมืองแร่ ซึ่งเปรูเป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่อันดับสามของโลก

การประท้วงของ Gen Z ในเปรูสะท้อนถึงการเดินขบวนของเยาวชนที่เคยเกิดขึ้นในอินโดนีเซียและเนปาล โดยมีสัญลักษณ์ร่วมกันคือ หัวกะโหลกสวมหมวกฟาง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์จากมังงะญี่ปุ่นเรื่อง "One Piece" ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกลุ่มโจรสลัดล่าสมบัติ

...

เลโอนาร์โด มูนอซ หนึ่งในผู้ประท้วงในลิมากล่าวว่า ตัวละครหลักอย่าง ลูฟี่ เดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ เพื่อปลดปล่อยผู้คนจากผู้ปกครองที่กดขี่และฉ้อฉล ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนสถานการณ์ในหลายประเทศ รวมถึงเปรูในขณะนี้

ซานติอาโก ซาปาตา นักศึกษาผู้ประท้วง กล่าวว่า "เราเหนื่อยกับการที่เรื่องเหล่านี้กลายเป็นเรื่องปกติ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เราทำความตายให้เป็นเรื่องปกติ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เราทำคอร์รัปชัน การกรรโชกให้เป็นเรื่องปกติ" และเน้นย้ำว่า "คนรุ่นผมออกมาชุมนุมตอนนี้เพราะเราเบื่อที่จะถูกปิดปาก ถูกทำให้กลัว ในขณะที่รัฐบาลที่เราเลือกมาควรเป็นฝ่ายที่เกรงกลัวเรา"

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า แม้จะมีแรงกดดันต่อรัฐบาลน้อยลงจากต่างประเทศ แต่การประท้วงที่ยืดเยื้ออาจเป็นปัจจัยสำคัญในการ "ยึดแนวต้าน" การถูกครอบงำโดยระบบอำนาจ และอาจนำไปสู่ผลลัพธ์เชิงบวกได้ เพราะ "โอเปร่ายังไม่จบลง"


ที่มา Reuters