ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการภาษีชุดใหม่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยมุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมเฉพาะทาง ได้แก่ ยาที่มีตราสินค้า รถบรรทุกขนาดใหญ่ รวมถึงตู้ในครัวและตู้อ่างล้างหน้า ซึ่งเป็นการดำเนินการตามนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" ที่เขายึดมั่นมาตลอด

ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า สหรัฐฯ จะเริ่มเก็บ ภาษีนำเข้า 100% สำหรับยาที่มีตราสินค้า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ยกเว้นบริษัทที่ยอมมาสร้างโรงงานในสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังจะเก็บภาษีนำเข้า 25% สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ทุกคัน และ 50% สำหรับตู้ในครัวและตู้อ่างล้างหน้า

ทรัมป์ชี้แจงผ่านแพลตฟอร์มทรูธโซเชียลว่า เหตุผลในการเรียกเก็บภาษีครั้งนี้คือการที่ "ผลิตภัณฑ์เหล่านี้กำลังทะลักเข้าสู่สหรัฐอเมริกาจากประเทศอื่น ๆ" และการดำเนินการนี้จะช่วยปกป้องผู้ผลิตในประเทศ

มาตรการใหม่นี้มีขึ้นแม้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐฯ จะเรียกร้องไม่ให้ทำเช่นนั้นก็ตาม โดยมาตรการนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตยาชั้นนำในสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และญี่ปุ่น ซึ่งสหราชอาณาจักรเป็นประเทศหนึ่งที่ส่งออกผลิตภัณฑ์ยามูลค่ากว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้สหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว

นอกจากนี้ การเก็บภาษีรถบรรทุกหนักจะช่วยปกป้องผู้ผลิตของสหรัฐฯ จาก "การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากภายนอก" และจะช่วยส่งเสริมบริษัทอย่าง Peterbilt และ Mack Trucks ให้เติบโต ส่วนภาษีตู้ครัวและเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ก็มีขึ้นเพื่อรับมือกับการนำเข้าที่สูงเกินไปจนส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในท้องถิ่น นอกจากนี้สหรัฐฯ จะเริ่มเก็บภาษี 30% สำหรับเฟอร์นิเจอร์บุผ้า ตั้งแต่สัปดาห์หน้าด้วย

มาตรการภาษีชุดนี้เป็นการขยายขอบเขตนโยบายการค้าของทรัมป์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เก็บภาษีภาคส่วนสำคัญอื่น ๆ มาแล้ว เช่น เหล็ก ทองแดง อะลูมิเนียม รถยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์

...

ในทางกลับกัน หอการค้าสหรัฐฯ ได้ออกมาเตือนว่าการเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่นี้อาจส่งผลกระทบ เนื่องจากชิ้นส่วนจำนวนมากที่ใช้ในการผลิตรถบรรทุกมาจากพันธมิตรของสหรัฐฯ เช่น เม็กซิโก แคนาดา เยอรมนี ฟินแลนด์ และญี่ปุ่น ซึ่งไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ และเป็นเรื่องที่ "ไม่สามารถทำได้จริง" ที่จะหาชิ้นส่วนเหล่านี้ในประเทศทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนในอุตสาหกรรมสูงขึ้น

นางเดบราห์ เอล์มส ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าจาก Hinrich Foundation ระบุว่า แม้ภาษีใหม่นี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตในประเทศ แต่ก็ "เลวร้าย" สำหรับผู้บริโภค เพราะจะทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นอย่างแน่นอน เธอมองว่ามาตรการภาษีเฉพาะอุตสาหกรรมเหล่านี้อาจเป็นแผนสำรองเพื่อสร้างรายได้ ในขณะที่มาตรการภาษีครั้งก่อนที่ครอบคลุมหลายประเทศกำลังยื่นอุทธรณ์ในศาล.


ที่มา BBC