โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวสุนทรพจน์บนเวทีสหประชาชาติครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยเขากล่าวโจมตีนโยบายผู้อพยพของประเทศต่างๆ และปฏิเสธเรื่องภาวะโลกร้อนอย่างสิ้นเชิง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563 เมื่อวันอังคารที่ 23 ก.ย. 2568 โดยเขาวิพากษ์วิจารณ์ทั้งองค์การสหประชาชาติ, นโยบายผู้อพยพ และสภาพอากาศ ขณะที่ยกย่องผลงานของตัวเองตอนเป็นผู้นำสหรัฐฯ สมัยแรก

นายทรัมป์เริ่มต้นการกล่าวสุนทรพจน์ของเขาด้วยการ พูดติดตลกเรื่องเครื่องบอกบท (teleprompter) ที่เสีย โดยกล่าวว่า "ใครก็ตามที่กำลังควบคุมเครื่องนี้อยู่คงเดือดร้อนแน่" ก่อนที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะกล่าวสุนทรพจน์ยาวถึง 56 นาที นานกว่าเวลาที่กำหนดไว้ 15 นาทีมาก

นายทรัมป์อธิบายว่าอะไรที่ทำให้สหรัฐฯ "เป็นประเทศที่ร้อนแรงที่สุดในโลก" และกำลังเข้าสู่ "ยุคทอง" ซึ่งความสำเร็จที่ทรัมป์ยกมากล่าวถึงได้แก่ การลงทุนในสหรัฐฯ, อัตราเงินเฟ้อและราคาน้ำมันที่ต่ำ, และ "ข้อตกลงการค้าครั้งประวัติศาสตร์" หลายฉบับที่มีการลงนามหลังจากเขาใช้มาตรการภาษีศุลกากรทั่วโลก

จากนั้น ผู้นำสหรัฐฯ สลับไปพูดเรื่องวิสัยทัศน์ของเขาเกี่ยวกับเวทีโลก โดยเขาพูดถึงสงคราม 7 แห่งที่เขาอ้างว่า ยุติลงระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของเขา ขณะที่ UN ไม่แม้แต่จะช่วยหาทางออก ในขณะที่ความขัดแย้งอื่นๆ ที่ยังดำเนินอยู่ทั่วโลก นายทรัมป์คิดว่า สงครามยูเครนจะเป็นความขัดแย้งที่แก้ไขได้ง่ายที่สุด

นายทรัมป์ย้ำด้วยว่า ผู้ที่กำลังเจรจาข้อตกลงหยุดยิงในกาซา "ต้องทำให้สำเร็จให้ได้" และตัวประกันจะต้องได้รับการปล่อยตัว ขณะที่กล่าวโจมตีการรับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์ที่ชาติยุโรปหลายแห่งประกาศก่อนหน้านี้ ว่าเป็นการให้รางวัลแก่ความโหดร้ายที่ลงมือกระทำโดยกลุ่มฮามาส

...

ต่อมานายทรัมป์หันไปโจมตีใน 2 ประเด็น ได้แก่เรื่อง ผู้อพยพ และเรื่องพลังงานหมุนเวียน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง โดยผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า ประเทศที่ให้ความสำคัญกับเสรีภาพกำลัง "จางหายไปอย่างรวดเร็ว" เนื่องจากนโยบายของพวกเขาในสองประเด็นนี้

ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวหา UN ว่ากำลังให้ทุนสนับสนุนวิกฤตผู้อพยพที่กำลังเกิดขึ้น พร้อมเรียกร้องให้ยุติ “การทดลองเปิดพรมแดนที่ล้มเหลว” ได้แล้ว และพูดเจาะจงถึงยุโรปว่า ทวีปนี้กำลังมีปัญหาอย่างมากเรื่องผู้อพยพ ก่อนจะกล่าวโจมตีความล้มเหลวของยุโรปในการตัดขาดพลังงานของรัสเซียว่า เป็นเรื่องน่าอับอาย

ส่วนเรื่องพลังงานหมุนเวียน นายทรัมป์กล่าวโจมตีสิ่งที่เขาเรียกว่า “การหลอกลวงเรื่องพลังงานสะอาด” โดยอ้างว่าแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และลม มีราคาแพงกว่าพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล

นอกจากนั้นเขายังปฏิเสธเรื่องภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศว่าเป็น “การหลอกลวงครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา” และอ้างว่า การคาดการณ์ของสหประชาชาติเรื่องสภาพอากาศนั้น "ผิดพลาด"

นายทรัมป์จบสุนทรพจน์ความยาวร่วม 56 นาทีของเขาด้วยการสรุปว่า "คุณต้องมีพรมแดนที่แข็งแกร่ง และแหล่งพลังงานแบบดั้งเดิม หากคุณต้องการที่จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง"


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : bbc , cnn