ท่ามกลางสงครามในฉนวนกาซาที่ดำเนินมาเกือบ 2 ปี ผู้นำโลกได้รวมตัวกันที่สหประชาชาติเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนการจัดตั้ง "รัฐปาเลสไตน์" ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนทางการทูตครั้งสำคัญ ที่สวนทางกับท่าทีแข็งกร้าวของอิสราเอลและสหรัฐฯ พันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่า ฝรั่งเศสจะให้การรับรองสถานะความเป็นรัฐของปาเลสไตน์ ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่อาจช่วยฟื้นขวัญและกำลังใจให้กับชาวปาเลสไตน์ได้ แม้ว่าจะไม่น่าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสถานการณ์ภาคพื้นดินมากนัก
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในการประชุมที่ประธานาธิบดีมาครงเป็นเจ้าภาพร่วมกับซาอุดีอาระเบีย ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ซึ่งมีผู้นำจากหลายประเทศเข้าร่วม รวมถึงประธานาธิบดี เตยิป แอร์โดอัน ของตุรกี, นายกรัฐมนตรี มาร์ก คาร์นีย์ ของแคนาดา และเลขาธิการสหประชาชาติ อันโตนิโอ กูแตร์เรส โดยหลายประเทศในยุโรป เช่น ลักเซมเบิร์ก, มอลตา, เบลเยียม และโมนาโก ก็ได้เข้าร่วมสนับสนุนปาเลสไตน์เช่นกัน
ประธานาธิบดีมาครงกล่าวในการเปิดการประชุมว่า "เราต้องปูทางไปสู่สันติภาพ เราต้องทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาความเป็นไปได้ของแนวทาง 'สองรัฐ' ที่อิสราเอลและปาเลสไตน์สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติและปลอดภัย"
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ จะกล่าวปราศรัยต่อสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในวันอังคาร ขณะที่บรรดาผู้นำโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตต่างๆ และตั้งคำถามว่าสหรัฐฯ ซึ่งมีนโยบายต่างประเทศแบบ "อเมริกาต้องมาก่อน" ยังพร้อมที่จะมีบทบาทเป็นผู้นำในประเด็นระดับโลกหรือไม่
การประกาศจุดยืนครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ อิสราเอล ซึ่งมีรัฐบาลสายขวาจัดที่สุดในประวัติศาสตร์ ได้ประกาศจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่มีการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์อย่างเด็ดขาด และยังคงเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่องเพื่อทำลายกลุ่มติดอาวุธฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มที่บุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,200 คน
...
ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วกว่า 65,000 คน และถูกนานาชาติประณามอย่างหนัก โดยเฉพาะการบุกภาคพื้นดินในเมืองกาซาซิตี้ ที่เริ่มขึ้นเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้โอกาสในการหยุดยิงยังดูริบหรี่
ด้าน นายมาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ ซึ่งไม่สามารถเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมได้เนื่องจากถูกสหรัฐฯ ปฏิเสธการออกวีซ่า ได้กล่าวผ่านระบบวิดีโอลิงก์ว่า "เราขอเรียกร้องให้ผู้ที่ยังไม่ได้ดำเนินการให้การรับรอง (ปาเลสไตน์) ทำตามบ้าง" และ "เราขอการสนับสนุนเพื่อให้ปาเลสไตน์เป็นสมาชิกอย่างเต็มตัวของสหประชาชาติ"
ถึงแม้ว่าหลายประเทศจะให้การรับรองเพิ่มขึ้น แต่การเป็นสมาชิกเต็มตัวของ UN จะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งสหรัฐฯ มีสิทธิในการวีโต้อยู่ ทำให้การรับรองดังกล่าวเป็นเพียงสัญลักษณ์ทางการทูตเท่านั้น
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ และอิสราเอล ได้บอยคอตการประชุมในครั้งนี้ โดย นายแดนนี ดานอน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติกล่าวว่า "ประเด็นเหล่านี้ควรเป็นเรื่องที่อิสราเอลและปาเลสไตน์เจรจากันในอนาคต"
การเดินหน้าสนับสนุนปาเลสไตน์ในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลของหลายประเทศว่า "แนวทางสองรัฐ" กำลังจะหายไปตลอดกาล หากไม่มีการดำเนินการใด ๆ อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะหลังจากการรุกรานกาซาที่ทวีความรุนแรงขึ้น และการใช้ความรุนแรงของกลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์.
ที่มา Reuters