ศาลสูงอ๊อกแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ มีคำตัดสินให้นาง ฮา-คย็อง อี วัย 44 ปี มีความผิดฐานฆาตกรรมลูกของตนเอง 2 คน และนำศพไปยัดไว้ในกระเป๋าเดินทาง ซึ่งถูกทิ้งไว้ในโกดังเก็บของเป็นเวลาหลายปี แม้ฝ่ายจำเลยจะอ้างว่าป่วยทางจิตขณะก่อเหตุ นับเป็นบทสรุปของคดีที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศ

คดีนี้เริ่มต้นขึ้นในเดือนสิงหาคม ปี 2022 เมื่อครอบครัวหนึ่งที่ประมูลซื้อของจากโกดังเก็บของร้างได้พบศพของเด็กชายและเด็กหญิงในกระเป๋าเดินทางที่ถูกนำมาเก็บไว้ตั้งแต่ปี 2018 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนพบว่านางอี ซึ่งเป็นแม่ของเด็กทั้งสอง ได้เดินทางกลับไปเกาหลีใต้หลังเกิดเหตุ และถูกจับกุมตัวได้ที่เมืองอุลซานเมื่อเดือนกันยายน ปี 2022 ก่อนจะถูกส่งตัวมาดำเนินคดีในนิวซีแลนด์ในเวลาต่อมา

ระหว่างการพิจารณาคดีนานกว่า 2 สัปดาห์ ฝ่ายอัยการแย้งว่าการกระทำของนางอีเป็นการไตร่ตรองไว้ก่อน โดยมีแรงจูงใจคือ "ต้องการปลดปล่อยตัวเองจากภาระในการเลี้ยงดูลูกเพียงลำพัง" หลังสามีของเธอเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อปี 2017 และนางอีแสดงให้เห็นถึงความมีสติสัมปชัญญะด้วยการซ่อนศพ เปลี่ยนชื่อ และหลบหนีกลับประเทศ

ศาลได้รับฟังว่านางอีไปรับยาตามใบสั่งแพทย์จากร้านขายยาในเดือนสิงหาคม 2017 ซึ่งเป็นเวลา 5 เดือนหลังจากที่สามีของเธอ เอียน โจ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง

ขณะที่ทนายฝ่ายจำเลยพยายามต่อสู้คดีโดยอ้างว่านางอีมีอาการป่วยทางจิตอย่างรุนแรงหลังสามีเสียชีวิต และพยายามฆ่าตัวตายพร้อมกับลูกๆ ด้วยยาต้านอาการซึมเศร้า แต่เมื่อฟื้นขึ้นมากลับพบว่าลูกทั้งสองเสียชีวิตแล้ว

อย่างไรก็ตาม แพทย์ชันสูตรศพยืนยันว่าเด็กทั้งสองเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรม โดยไม่มีร่องรอยบาดแผลภายนอกที่ชัดเจน แต่พบร่องรอยการใช้ยา Nortriptyline ซึ่งเป็นยาต้านอาการซึมเศร้า

...

เมื่อคณะลูกขุนอ่านคำตัดสินในวันอังคารที่ผ่านมา นางอีเอาแต่ก้มหน้าและไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ตามรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีระบุว่า นางอีต้องเผชิญโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต.


ที่มา BBC