จิมมี คิมเมล พิธีกรรายการทอล์กโชว์ชื่อดังของสหรัฐฯ จะกลับมาจัดรายการ "Jimmy Kimmel Live!" อีกครั้งในวันอังคารนี้ หลังถูกพักงานไปชั่วคราวจากประเด็นดราม่าที่เขาเล่นมุกตลกเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ นายชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวสายอนุรักษ์นิยมคนดัง โดยการพักงานครั้งนี้จุดประเด็นร้อนเรื่อง "เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น" ทั่วประเทศ
บริษัทดิสนีย์ ซึ่งเป็นเจ้าของเครือข่ายโทรทัศน์ที่ออกอากาศรายการดังกล่าว แถลงเมื่อวันจันทร์ (22 ก.ย.) ว่า การพักงานครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก "มองว่าคำพูดบางส่วนไม่เหมาะสมและอ่อนไหวเกินไป" แต่หลังจากพูดคุยกับนายคิมเมลอย่างจริงจังตลอดหลายวันที่ผ่านมา ก็ได้ข้อสรุปว่าเขาควรกลับมาทำรายการได้ตามปกติ
การพักงานอย่างกะทันหันของคิมเมลเกิดขึ้นหลังหน่วยงานกำกับดูแลด้านโทรทัศน์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ขู่ว่าจะเพิกถอนใบอนุญาตออกอากาศของสถานีโทรทัศน์เอบีซี จากคำพูดของเขา ซึ่งก่อให้เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวางทั่วประเทศถึงประเด็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เองก็เคยแสดงความพอใจกับการพักงานของคิมเมล และเคยเสนอว่าช่องทีวีบางช่องควรถูกเพิกถอนใบอนุญาตหากเสนอข่าวที่เป็นลบต่อตัวเขา อย่างไรก็ตาม เมื่อนักข่าวถามถึงการกลับมาทำงานของคิมเมล ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้ให้ความเห็นใด ๆ
ด้านสถานีโทรทัศน์หลายแห่งที่เป็นพันธมิตรกับเอบีซี เช่น ซินแคลร์ และ เน็กซ์สตาร์ ได้ตัดสินใจระงับการออกอากาศรายการของคิมเมลเป็นการชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่าคำพูดของเขา "ไม่เหมาะสมและไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้คนในช่วงเวลาที่สำคัญของประเทศ" โดยระบุว่าจะมีการหารือกับเอบีซีอีกครั้งถึงความเป็นไปได้ในการนำรายการกลับมาออกอากาศ
นักวิจารณ์และผู้สนับสนุนกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 ซึ่งคุ้มครองสิทธิในการแสดงออก ต่างออกมาประณามการตัดสินใจของเอบีซีว่าเป็นการเซ็นเซอร์และละเมิดเสรีภาพในการพูดอย่างชัดเจน ขณะที่เพื่อนร่วมงานในวงการของคิมเมล รวมถึงนักแสดงและนักเขียนชื่อดังหลายร้อยคน เช่น เบน สติลเลอร์, เจนนิเฟอร์ อนิสตัน, เมอรีล สตรีป และ โรเบิร์ต เดอ นีโร ก็ได้ร่วมกันลงชื่อในจดหมายเพื่อสนับสนุนเขา โดยมองว่าการพักงานครั้งนี้เป็น "ช่วงเวลาที่มืดมนสำหรับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นในประเทศของเรา"
...
วิกฤตครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นในรายการของคิมเมล เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา เมื่อเขาได้เล่นมุกว่ากลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ “พยายามอย่างสุดชีวิตที่จะอธิบายว่าเด็กที่สังหารชาร์ลี เคิร์ก ไม่ใช่พวกเดียวกับพวกเขา” พร้อมทั้งล้อเลียนปฏิกิริยาของทรัมป์ต่อการเสียชีวิตของเคิร์กที่พูดจาวกไปวนมาไม่ตรงประเด็น โดยคิมเมลเปรียบเทียบว่า "เหมือนเด็ก 4 ขวบที่ทำปลาทองตาย"
นายเบรนแดน คาร์ ประธานคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (FCC) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์ ได้ออกมาขู่ว่าจะดำเนินการกับเอบีซีและดิสนีย์ในทันทีหลังคำพูดของคิมเมลแพร่ไป สร้างความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลและวงการสื่อมวลชนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน.
ที่มา BBC