องค์กรการกุศลหลายแห่งในอังกฤษ ประกาศถอด ดัชเชสแห่งยอร์ก ออกจากตำแหน่งผู้อุปถัมภ์ขององค์กรแล้ว หลังเธอถูกแฉว่าส่งอีเมลสนับสนุนนายเจฟฟรีย์ เอปสตีน

เมื่อวันจันทร์ที่ 22 ก.ย. 2568 องค์กรการกุศล 7 แห่ง ถอด ซาราห์ เฟอร์กูสัน ดัชเชสแห่งยอร์ก ออกจากสถานะอุปถัมภ์หรือทูตขององค์กรแล้ว หลังมีการเปิดเผยว่า ในอีเมลฉบับหนึ่งเมื่อปี 2554 เธอเรียกนาย เจฟฟรีย์ เอปสตีน ผู้กระทำผิดทางเพศผู้ล่วงลับว่าเป็น "เพื่อนที่ดีที่สุด" และดูเหมือนจะขอโทษสำหรับการวิพากษ์วิจารณ์เขาในที่สาธารณะด้วย

ศูนย์บริรักษ์เด็ก “จูเลียส์ เฮาส์” (Julia's House) เป็นองค์กรแรกที่ถอดดัชเชสแห่งยอร์ก อดีตพระชายาในเจ้าชายแอนดรูว์ ออกจากตำแหน่งโดยให้เหตุผลว่า การให้เธออยู่ในตำแหน่งต่อไปนั้น "ไม่เหมาะสม"

จากนั้นองค์กรการกุศลอื่นๆ ได้แก่ มูลนิธิโรคมะเร็งในวัยรุ่น, กองทุนวิจัยโรคภูมิแพ้นาตาชา, มูลนิธิเพื่อการอ่านออกเขียนได้ของเด็ก, มูลนิธิแห่งชาติเพื่อสัตว์บริการเกษียณอายุ และองค์กรป้องกันโรคมะเร็งเต้านม ก็ประกาศถอดดัชเชสแห่งยอร์กจากการเป็นผู้อุปถัมภ์

ขณะที่กองทุนโรคหัวใจแห่งบริติช ออกมาระบุว่า ดัชเชสแห่งยอร์กไม่เป็นทูตของพวกเขาอีกต่อไปแล้ว

ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจาก หนังสือพิมพ์ “เมล ออน ซันเดย์” กับ “เดอะ ซัน” เผยแพร่อีเมลฉบับเมื่อปี 2554 ที่ดัชเชสส่งให้นายเอปสตีน โดยดูเหมือนว่านี่เป็นอีเมลที่ส่งไปหลังจากเธอประกาศต่อสาธารณะว่า ได้ตัดขาดการติดต่อกับผู้กระทำผิดคดีทางเพศรายนี้ไปแล้ว

ในอีเมลดังกล่าว ดูเหมือนว่าดัชเชสแห่งยอร์กจะขอโทษนายเอปสตีนอย่างเป็นการส่วนตัว ที่เธอปฏิเสธนายเอปสตีนต่อหน้าสาธารณะ และระบุว่า “คุณเป็นเพื่อนที่มั่นคง ใจกว้าง และดีที่สุดสำหรับฉันและครอบครัวมาโดยตลอด”

...

อีเมลดังกล่าวสวนทางกับคำพูดของเธอที่กล่าวไว้ในช่วงต้นปีเดียวกัน โดยดัชเชสกล่าวว่า การที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับนายเอปสตีนเป็น “การตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่” และ “สิ่งที่เขาทำนั้นผิด และสมควรแล้วที่เขาถูกจำคุก”

แต่โฆษกของดัชเชสแห่งยอร์กอ้างว่า เธอส่งอีเมลดังกล่าวถึงเอปสตีนตามคำแนะนำของที่ปรึกษา เพราะเธอถูกอดีตนักการเงินรายนี้ข่มขู่ว่าจะฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาท และเธอยังคงเสียใจอย่างยิ่งที่เคยมีความเกี่ยวข้องกับนายเอปสตีน

ทั้งนี้ นายเอปสตีนถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดข้อหาค้าประเวณี 2 กระทงในปี 2551 และถูกตัดสินจำคุก 13 เดือน ตามข้อตกลงสารภาพผิดที่เขาทำไว้กับอัยการ


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : bbc