เกิดเหตุโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ในยุโรป ส่งผลให้ระบบเช็กอินและนำเครื่องขึ้นของหลายสนามบินสำคัญหยุดชะงัก สร้างความโกลาหลและความล่าช้าให้กับผู้โดยสารจำนวนมาก
สนามบินลอนดอนฮีทโธรว์ ซึ่งเป็นสนามบินที่มีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดในยุโรป เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจาก ปัญหาทางเทคนิค ของบริษัทผู้ให้บริการระบบเช็กอินและระบบบอร์ดดิ้ง โดยบริษัทที่ได้รับผลกระทบคือ Collins Aerospace ผู้พัฒนาเทคโนโลยีการบินจากสหรัฐฯ ที่ให้บริการแก่สายการบินหลายแห่งทั่วโลก
Collins Aerospace ยืนยันว่า การโจมตีดังกล่าวกระทบซอฟต์แวร์ MUSE (Multi-User System Environment) ที่ใช้ในการเช็กอินและโหลดสัมภาระอัตโนมัติ แต่ย้ำว่ายังสามารถดำเนินการเช็กอินแบบ manual ได้ พร้อมระบุว่า กำลังเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อฟื้นฟูระบบให้กลับมาทำงานเต็มประสิทธิภาพโดยเร็วที่สุด
เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความโกลาหลให้ผู้โดยสารจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถเช็กอินได้ และถูกเจ้าหน้าที่สายการบินบอกให้กลับไปโดยยังไม่ให้ข้อมูลที่ชัดเจน ขณะที่ผู้โดยสารอีกหลายรายชี้ว่า เหตุความขัดข้องครั้งนี้ขาดการสื่อสาร ไม่มีใครออกมาชี้แจงหรือให้ข้อมูลใดๆ แก่ผู้โดยสาร
...
ไม่เพียงแต่ลอนดอนฮีทโธรว์เท่านั้น สนามบินสำคัญอื่นๆ เช่น บรัสเซลส์ ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยต้องใช้วิธีเช็กอินและขึ้นเครื่องด้วยมือทั้งหมด ขณะที่ สนามบินเบอร์ลิน-บรันเดนบวร์ก ยืนยันว่าได้ตัดการเชื่อมต่อระบบบางส่วนเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม สนามบินหลักในกรุงปารีส ทั้งชาร์ลส์ เดอโกล สนามบินปารีส-ออร์ลี และสนามบิน เลอ บรูเกต์ ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุโจมตีครั้งนี้ ขณะที่ผู้โดยสารที่มีกำหนดการเดินทางจากยุโรปในช่วงสุดสัปดาห์ถูกแนะนำให้ ตรวจสอบสถานะเที่ยวบินอย่างใกล้ชิด และเผื่อเวลาเดินทางมากกว่าปกติ.
ที่มา : Reuters
คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ โจมตีทางไซเบอร์