สหรัฐอเมริกา ใช้สิทธิวีโต้เป็นครั้งที่ 6 ในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เพื่อยับยั้งร่างมติที่เรียกร้องให้มีการหยุดยิงถาวรและไร้เงื่อนไขในฉนวนกาซา

สหรัฐอเมริกาใช้สิทธิวีโต้ ร่างข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เมื่อวันพฤหัสบดี (18 ก.ต.)  ซึ่งเรียกร้องให้มีการหยุดยิงถาวรโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไขในฉนวนกาซา พร้อมทั้งให้ยกเลิกข้อจำกัดด้านความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งหมดที่อิสราเอลกำหนดต่อพื้นที่ ข้อมติดังกล่าวเสนอโดย 10 ประเทศสมาชิกที่ไม่ใช่สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคง และได้รับการสนับสนุนจาก 14 ชาติสมาชิก มีเพียงสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของอิสราเอล ที่ยกมือคัดค้าน ส่งผลให้มติดังกล่าวตกไป

นี่เป็นครั้งที่ 6 ที่สหรัฐฯ ใช้สิทธิวีโต้ในช่วงเกือบ 2 ปี ของสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส โดยร่างข้อมติยังได้เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมดที่ถูกควบคุมโดยฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่นอย่างทันทีและอย่างมีศักดิ์ศรี

ก่อนการลงมติ คริสตินา มาร์คุส ลาสเซน เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำยูเอ็น กล่าวต่อที่ประชุมว่า "ความอดอยากในกาซาถูกยืนยันแล้ว ไม่ใช่การคาดการณ์ ไม่ใช่การประกาศ แต่เป็นข้อเท็จจริง" พร้อมชี้ว่าอิสราเอลได้ขยายปฏิบัติการทางทหารในเมืองกาซาซิตี้ ทำให้พลเรือนต้องทนทุกข์สาหัสยิ่งขึ้น รายงานของหน่วยงานเฝ้าระวังความหิวโหยโลกก่อนหน้านี้ยืนยันว่า เมืองกาซาซิตี้และพื้นที่โดยรอบกำลังประสบภาวะทุพภิกขภัย และมีแนวโน้มจะลุกลามต่อไป

สหรัฐฯ ยังคงปกป้องอิสราเอลในเวทียูเอ็นอย่างต่อเนื่อง แม้สัปดาห์ก่อนเพิ่งสนับสนุนถ้อยแถลงของคณะมนตรีฯ ที่ประณามการโจมตีในกาตาร์ ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนักที่สหรัฐฯ ไม่ยืนข้างอิสราเอลเต็มที่ อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธิยับยั้งล่าสุดสะท้อนว่าสหรัฐฯ กลับมามอบเกราะคุ้มกันทางการทูตให้อิสราเอลอีกครั้ง

...

มอร์แกน ออร์ตากัส นักการทูตสหรัฐฯ กล่าวต่อที่ประชุมว่า "ฮามาสเป็นผู้เริ่มและทำให้สงครามนี้ยืดเยื้อต่อไป อิสราเอลได้ยอมรับข้อเสนอเพื่อยุติสงครามแล้ว แต่ฮามาสยังปฏิเสธ หากฮามาสปล่อยตัวประกันและวางอาวุธ สงครามก็จะจบลงได้ทันที"

ด้านแดนนี ดานอน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำยูเอ็น ยอมรับว่าอิสราเอลไม่พอใจถ้อยแถลงกรณีกาตาร์ แต่ย้ำว่าระดับความร่วมมือกับสหรัฐฯ "ยังคงแน่นแฟ้น" พร้อมเปิดเผยว่านายกฯ เบนจามิน เนทันยาฮู จะเดินทางไปพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กรุงวอชิงตัน ในวันที่ 29 กันยายน หลังเสร็จสิ้นการประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็น

สงครามกาซาปะทุขึ้นเมื่อ 7 ตุลาคม 2023 จากการโจมตีของฮามาสในอิสราเอล คร่าชีวิตพลเรือนราว 1,200 คน และจับตัวประกัน 251 คน ตามข้อมูลอิสราเอล ขณะที่ตัวเลขจากหน่วยงานสาธารณสุขกาซาระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 64,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน.


ที่มา Reuters