โดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยัน สหรัฐฯ มีผู้ซื้อ TikTok แล้ว หลังจากสหรัฐฯ กับจีนบรรลุข้อตกลงที่จะทำให้แอปพลิเคชันนี้สามารถให้บริการในสหรัฐฯ ต่อไปได้โดยไม่โดนแบนเพราะความกังวลด้านความมั่นคง
เมื่อวันอังคารที่ 16 ก.ย. 2568 โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ กับจีนบรรลุข้อตกลงซึ่งจะทำให้แอปพลิเคชัน TikTok สามารถให้บริการในสหรัฐฯ ต่อไปได้แล้ว ด้วยการขายกิจการของ TikTok ในสหรัฐฯ จากบริษัทแม่สัญชาติจีนอย่าง “ไบต์แดนซ์” (ByteDance) ให้แก่เจ้าของในอเมริกา
ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการเจรจาที่ดำเนินมานานหลายเดือนระหว่างประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 1 และ 2 ของโลก ซึ่งกำลังหาทางคลี่คลายสงครามการค้าในวงกว้างที่สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดโลก
“เรามีข้อตกลงเรื่อง TikTok แล้ว ... เรามีกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่มากๆ หลายแห่งที่ต้องการซื้อกิจการนี้” นายทรัมป์กล่าว โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม
ประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงวันเดียวก่อนจะถึงเส้นตายวันที่ 17 ก.ย. ที่นายทรัมป์ขีดเอาไว้ให้บริษัท ไบต์แดนซ์ ตัดสินใจว่าจะขายกิจการของ TikTok ในสหรัฐฯ หรือหยุดให้บริการแอปพลิเคชันนี้ในสหรัฐฯ โดยนายทรัมป์ชื่นชมข้อตกลงการค้าดังกล่าว โดยเรียกมันว่าเป็นการยกระดับสำหรับทั้งสองประเทศ และว่ามันจะช่วยรักษาเศรษฐกิจมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์เอาไว้
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงใดๆ จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรสเสียก่อน ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก เนื่องจากพรรครีพับลิกันของนายทรัมป์ครองเสียงข้างมากเอาไว้
ทั้งนี้ นายทรัมป์พยายามชงเรื่องการแบนแอปพลิเคชัน TikTok ในสหรัฐฯ ในช่วงก่อนสิ้นสุดการปกครองสมัยแรกของเขา โดยอ้างความกังวลด้านความปลอดภัยของข้อมูล แม้นโยบายของเขาจะไม่เคยผ่านความเห็นชอบจากสภา แต่ในท้ายที่สุด รัฐบาลชุดต่อมาของนายโจ ไบเดน ก็ให้การสนับสนุนและลงนามเป็นกฎหมายในปี 2567
...
กฎหมายดังกล่าวทำให้บริการ TikTok ในสหรัฐฯ หยุดไปช่วงระยะเวลาหนึ่งในวันที่ 18 ก.ค. ก่อนที่ “กฎหมายควบคุมแอปพลิเคชันต่างชาติที่เป็นปรปักษ์” (Foreign Adversary Controlled Applications Act) จะเริ่มมีผลบังคับใช้ แต่ 2 วันต่อมา นายทรัมป์ก็ลงนามคำสั่งพิเศษ เลื่อนเส้นตายการแบน TikTok ออกไป 75 วัน
ท่าทีของนายทรัมป์ที่มีต่อ TikTok เปลี่ยนไป หลังจากแอปพลิเคชันนี้ช่วยให้เขาชนะการเลือกตั้งปี 2567 อย่างถล่มทลาย กอปรกับความกังวลว่าจะทำให้ผู้ใช้งาน TikTok ในสหรัฐฯ กว่าร้อยล้านบัญชีไม่พอใจ ทำให้รัฐบาลของเขาเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวมาตลอด
คาดกันว่านายทรัมป์จะเลื่อนเส้นตายอีกหากทีมเจรจาของทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงไม่ทันเส้นตายวันที่ 17 ก.ย.
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : can