พรรคการเมืองใหญ่ของเนปาล 8 พรรค ได้ออกมาเรียกร้องให้ ประธานาธิบดีราม จันทรา พูเดล คืนสถานะให้กับรัฐสภาที่ถูกยุบไปก่อนหน้านี้ โดยให้เหตุผลว่าการกระทำดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญและเป็นภัยต่อประชาธิปไตย หลังจากแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ

การตัดสินใจยุบสภาของประธานาธิบดีเกิดขึ้นตามข้อเสนอแนะของ นางซูชีลา คาร์กี นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องหลักของกลุ่มผู้ประท้วง Gen Z ที่ออกมาต่อต้านการคอร์รัปชัน และการแบนสื่อสังคมออนไลน์จนลุกลามเป็นความรุนแรง มีผู้เสียชีวิตกว่า 51 ราย

การประท้วงเริ่มจากประเด็นการแบนสื่อสังคมออนไลน์ ก่อนจะลุกลามเป็นการเรียกร้องให้ต่อต้านการทุจริตและการใช้ชีวิตหรูหราของบุตรหลานนักการเมือง ผู้ประท้วงได้จุดไฟเผาอาคารรัฐสภาและทำเนียบรัฐบาล ส่งผลให้นายกรัฐมนตรีคนก่อนต้องลาออก

พรรคการเมืองสำคัญ 8 พรรค รวมถึง Nepali Congress และ CPN-UML ได้ร่วมกันลงนามในแถลงการณ์คัดค้านการยุบสภา โดยมองว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อแนวทางปฏิบัติทางตุลาการของเนปาล อย่างไรก็ตาม พรรคการเมืองทั้ง 8 พรรคกล่าวว่าข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง ซึ่งรวมถึงการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 5 มีนาคมปีหน้า ควรได้รับการแก้ไขผ่านสถาบันที่ได้รับการโหวตจากประชาชน

ประธานาธิบดีพูเดลได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจและร่วมมือกันจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยย้ำว่ารัฐธรรมนูญยังคงมีผลบังคับใช้ ระบบรัฐสภายังคงมีผลบังคับใช้ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยแบบสหพันธรัฐยังคงอยู่ ประชาชนมีโอกาสที่จะก้าวไปข้างหน้าบนเส้นทางประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการจัดการเลือกตั้งภายใน 6 เดือน

นายกรัฐมนตรีคาร์กี ซึ่งเป็นสตรีคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งในเนปาล จะต้องเผชิญความท้าทายหลายด้าน ทั้งการฟื้นฟูกฎหมายและความสงบเรียบร้อย การฟื้นฟูอาคารรัฐสภา และสิ่งก่อสร้างสำคัญที่ได้รับความเสียหาย และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มผู้ประท้วงที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง

...

ปัจจุบันกองทัพเนปาลได้ถอนกำลังออกจากท้องถนนแล้ว ขณะที่สถานการณ์ความไม่สงบในประเทศกำลังค่อย ๆ กลับคืนสู่ภาวะปกติ หลังเหตุการณ์ประท้วงครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ.


ที่มา BBC