แรงงานชาวเกาหลีใต้กว่า 300 คนได้เดินทางกลับถึงบ้านแล้วในวันนี้ หนึ่งสัปดาห์หลังจากถูกบุกจับและควบคุมตัวในปฏิบัติครั้งใหญ่ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ ที่ไซต์งานโครงการผลิตแบตเตอรีในรัฐจอร์เจีย

แรงงานชาวเกาหลีใต้ที่สวมหน้ากากอนามัย ทยอยลงจากเครื่องบินเช่าเหมาลำที่ท่าอากาศยานอินชอน โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงหัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดีรอต้อนรับ โดยมีเสียงปรบมือแสดงความยินดี

การเดินทางกลับในครั้งนี้เป็นผลจากการเจรจาอย่างเข้มข้นตลอดทั้งสัปดาห์ของรัฐบาลเกาหลีใต้ เพื่อให้สหรัฐฯ ปล่อยตัวและส่งตัวแรงงานกลับบ้าน หลังภาพการควบคุมตัวแรงงานในลักษณะใส่กุญแจมือและโซ่ตรวนได้สร้างความตกตะลึงแก่ชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก

ปัญหาการขอวีซ่าที่เหมาะสมสำหรับแรงงานผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำงานในโครงการต่างๆ ในสหรัฐฯ เป็นเวลานาน เป็นความท้าทายที่บริษัทเกาหลีใต้ต้องเผชิญมาอย่างต่อเนื่อง และทำให้แรงงานบางส่วนต้องอาศัยช่องว่างทางกฎหมายเรื่องวีซ่าของสหรัฐฯ

เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความไม่พอใจอย่างกว้างขวางในเกาหลีใต้ และสั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ในช่วงเวลาที่ทั้งสองกำลังจะสรุปข้อตกลงการค้าสำคัญ ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งกองทุนมูลค่า 3.5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ

นอกจากแรงงานเกาหลีใต้ ยังมีผู้ถูกกักตัวจากจีน 10 คน ญี่ปุ่น 3 คน และชาวอินโดนีเซีย 1 คน ซึ่งทำงานให้กับบริษัท LG Energy Solution และผู้รับเหมาช่วง โดยโครงการดังกล่าวเป็นการร่วมลงทุนกับ บริษัทฮุนได มอเตอร์ ในการสร้างโรงงานแบตเตอรี

นายโช ฮยอน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเดินทางไปกรุงวอชิงตันดีซี ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ พิจารณาวีซ่าประเภทใหม่สำหรับแรงงานในบริษัทเกาหลีที่ลงทุนในสหรัฐฯ โดยทั้งสองประเทศกำลังพิจารณาจัดตั้งคณะทำงานเพื่อหารือในเรื่องนี้

...

ประธานาธิบดีอี แจ มยอง ได้เตือนว่า เหตุการณ์นี้อาจทำให้บริษัทเกาหลีใต้ลังเลที่จะลงทุนในสหรัฐฯ ในช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามจะดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในภาคการผลิต.


ที่มา Reuters