นายกรัฐมนตรี ฟรองซัวส์ บายรู พ่ายแพ้ในการลงมติไม่ไว้วางใจอย่างย่อยยับ และต้องยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง หลังจากปฏิบัติหน้าที่มาได้เพียง 9 เดือนเท่านั้น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ฝรั่งเศสตกลงสู่วิกฤตทางการเมืองรอบใหม่ในวันจันทร์ที่ 8 ก.ย. 2568 หลังจาก ฟรองซัวส์ บายรู พ่ายแพ้ในการลงมติไม่ไว้วางใจในรัฐสภาไปด้วยคะแนน 364 ต่อ 194 หมายความว่าเขากับรัฐบาลของเขาจะต้องยื่นหนังสือลาออกในวันอังคารแก่ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง
ขณะเดียวกัน นายมาครงก็ต้องเลือกผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยมีตัวเลือกหลายทางรวมถึงการเลือกนายกฯ คนใหม่จากกลุ่มฝ่ายกลางขวา หรือตัดสินใจเอียงซ้ายแล้วเลือกชื่อที่เข้ากันได้กับพรรคสังคมนิยม หรือยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งสำนักงานของนายมาครงระบุว่า เขาจะเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ภายในไม่กี่วันข้างหน้า
ด้านศัตรูทางการเมืองของนายมาครงในพรรคฝ่ายซ้ายจัดอย่างพรรค “ลา ฟรองซ์ อินซูมิเซ” (LFI) เรียกร้องให้นายมาครงลาออกจากตำแหน่ง แต่นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่ามันจะไม่เกิดขึ้น และฝรั่งเศสกำลังจะมีนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 ภายในเวลาเพียง 2 ปี ตอกย้ำความไม่แน่นอนและความไม่พอใจในการปกครองสมัยที่ 2 ของนายมาครง
ทั้งนี้ ความพ่ายแพ้ของนายบายรูเกิดขึ้นหลังจาก เขาเดิมพันรัฐบาลในการอภิปรายฉุกเฉินเพื่อขอความไว้วางใจเรื่องหนี้สินของประเทศ โดยเขาใช้เวลาตลอดฤดูร้อนเพื่อเตือนถึงภัยคุกคามต่อ “การดำรงอยู่” ของฝรั่งเศสหากไม่เริ่มจัดการกับหนี้สินจำนวน 3.4 ล้านล้านยูโร
ในร่างงบประมาณปี 2569 เขาเสนอยกเลิกวันหยุดราชการ 2 วัน และระงับการจ่ายเงินสวัสดิการและเงินบำนาญ เพื่อประหยัดงบประมาณ 4.4 หมื่นล้านยูโร แต่ความหวังของเขาก็หมดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อพรรคฝ่ายซ้ายกับฝ่ายขวาจัดร่วมมือกันเล่นงานเขา จนนายบายรูต้องพ่ายแพ้ในการลงมติไว้วางใจ
...
ในการกล่าวสุนทรพจน์ก่อนหน้านี้ บายรูได้กล่าวอย่างชัดเจนว่าเขามองไปที่ประวัติศาสตร์มากกว่าการเมือง โดยบอกกับสมาชิกรัฐสภาว่าคนรุ่นหลังคือผู้ที่จะต้องทนทุกข์ทรมานหากฝรั่งเศสสูญเสียความเป็นอิสระทางการเงิน
"การยอมจำนนต่อหนี้สินก็เหมือนกับการยอมจำนนต่ออาวุธ" เขากล่าว พร้อมเตือนว่าระดับหนี้ในปัจจุบันหมายถึง "การผลักดันคนหนุ่มสาวเข้าสู่ความเป็นทาส"
"พวกคุณอาจมีอำนาจที่จะโค่นล้มรัฐบาล แต่พวกคุณไม่สามารถลบเลือนความเป็นจริงได้" เขากล่าว แต่ดูเหมือนคำพูดของเขาจะไม่อาจโน้มน้าวรัฐสภาและประเทศฝรั่งเศสได้ พรรคฝ่ายซ้ายและขวาจัดกล่าวหาว่าเขากำลังพยายามปกปิดความผิดพลาด ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นชี้ว่า ชาวฝรั่งเศสยังไม่คิดว่าเรื่องหนี้สินของประเทศเป็นวาระแห่งชาติ
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc