โปรตุเกสเผยรายงานเบื้องต้นเหตุโศกนาฏกรรมรถกระเช้ารางที่ประสบอุบัติเหตุ จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 ศพ และบาดเจ็บอีกเกือบ 20 คน เกิดจากสายเคเบิล
สำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งของโปรตุเกส เปิดเผยรายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมรถรางฟูนิกูลาร์ “กลอเรีย”ที่ประสบอุบัติเหตุเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า หลังตรวจสอบซากในที่เกิดเหตุ พบว่าสายเคเบิลที่เชื่อมระหว่างตู้รถรางขาด โดยสาเคเบิลดังกล่าวมีอายุการใช้งานได้ 600 วัน และเพิ่งถูกใช้งานมาเพียง 337 วันก่อนที่จะขาด ส่งผลให้รถรางไม่สามารถควบคุมความเร็วได้ ขณะที่กลไกอื่นของระบบยังทำงานปกติ
รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมรถพยายามใช้เบรกฉุกเฉินทั้งแบบลมและแบบแมนนวล แต่ไม่สามารถหยุดขบวนรถได้ทัน ก่อนที่ตู้รถรางด้านบนจะพุ่งชนเข้ากับอาคารด้วยความเร็วประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายสัญชาติ โดยเหยื่อผู้เสียชีวิต 16 ราย ประกอบด้วยชาวโปรตุเกส 5 ราย ชาวอังกฤษ 3 ราย ชาวเกาหลีใต้ 2 ราย ชาวแคนาดา 2 ราย ชาวอเมริกัน 1 ราย ชาวยูเครน 1 ราย ชาวสวิส 1 ราย และชาวฝรั่งเศส 1 ราย
ในจำนวนผู้บาดเจ็บราว 20 คน มีอย่างน้อย 6 คนถูกส่งเข้าห้องไอซียู และอีก 3 คนบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่ามีผู้เคราะห์ร้ายกี่คนที่อยู่บนรถราง และกี่คนที่อยู่บนถนนตอนเกิดเหตุ
...
รถรางฟูนิกูลาร์กลอเรียมีประวัติยาวนานกว่า 140 ปี ถือเป็นระบบขนส่งสำคัญที่ช่วยให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวเดินทางบนเนินชันของลิสบอน อีกทั้งยังเป็นแลนด์มาร์กด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง แต่กลับกลายเป็นจุดเกิดเหตุโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่
นายกรัฐมนตรีโปรตุเกส หลุยส์ มอนเตเนโกร กล่าวภายหลังเหตุการณ์ว่า อุบัติเหตุครั้งนี้คือ "หนึ่งในโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ร่วมสมัยของประเทศ"
ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนย้ำว่า ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้ และจะเผยแพร่รายงานฉบับสมบูรณ์ภายใน 45 วัน.
ที่มา : BBC
คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ โปรตุเกส