รัฐบาลเกาหลีใต้จัดการประชุมฉุกเฉิน เพื่อหาทางตอบสนองต่อกรณีที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บุกตรวจค้นโรงงานของบริษัท ฮุนได และจับคนงานไปหลายร้อยคน

รัฐบาลเกาหลีใต้จัดประชุมฉุกเฉินในวันเสาร์ที่ 6 ก.ย. 2568 หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บุกตรวจค้นโรงงานของบริษัท “ฮุนได” ในรัฐจอร์เจีย และควบคุมตัวคนงานไปกว่า 475 คน โดยในจำนวนนี้เป็นชาวเกาหลีใต้ไม่น้อยกว่า 300 คน ซึ่งรัฐบาลแดนโสมขาวให้คำมั่นว่า จะตอบสนองต่อการจับกุมครั้งนี้อย่างรวดเร็ว

เบื้องต้น รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ส่งทูตไปยังโรงงานที่เกิดเหตุในรัฐจอร์เจียแล้ว ขณะที่บริษัท แอลจี เอเนอร์จี โซลูชัน ซึ่งใช้โรงงานร่วมกับฮุนไดระบุว่า ลูกจ้างส่วนใหญ่ที่ถูกจับกำลังอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนเพื่อดูงานทางธุรกิจด้วยวีซ่าหลากหลายแบบ ซึ่งหลังเกิดเหตุ แอลจีได้ระงับเดินทางไปดูงานที่สหรัฐฯ เกือบทั้งหมดแล้ว

ทั้งนี้ ทำเนียบขาวสหรัฐฯ อ้างว่า เจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นโรงงานผลิตแบตเตอรีดังกล่าว ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการลงทุนจากต่างประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เนื่องจากพบว่า มีการทำงานอย่างผิดกฎหมายเกิดขึ้นที่นั่น พร้อมกับปฏิเสธความกังวลที่ว่า การบุกตรวจค้นครั้งนี้จะทำให้ต่างชาติไม่กล้าเข้ามาลงทุนในสหรัฐฯ

“พวกเขาคือคนต่างด้าวผิดกฎหมาย และ ICE (สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร) เพิ่งทำหน้าที่ของพวกเขาไป” นายทรัมป์กล่าวว่า การบุกตรวจค้นเกิดขึ้นในวันศุกร์

ด้านนายโช ฮย็อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้กล่าวว่าเขารู้สึก "ต้องรับผิดชอบอย่างยิ่งต่อการจับกุมพลเมืองของเรา" ขณะที่เขาเป็นประธานการประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับปัญหานี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

นายโชบอกอีกว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ได้จัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจพิทักษ์ชาวเกาหลีในต่างประเทศ เพื่อตอบสนองต่อการจับกุมที่เกิดขึ้น และเขาอาจเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.หากจำเป็น

...


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : bbc