ผู้นำฝรั่งเศสเผย ชาติพันธมิตรยูเครน 26 ประเทศให้คำมั่นว่าจะส่งทหารเข้าไปประจำการในยูเครนทันทีหลังจากการสู้รบจบลง เพื่อรับประกันความมั่นคงแก่ยูเครน

เมื่อวันพฤหัสบดี 4 ก.ย. 2568 ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส กล่าวว่า 26 ชาติพันธมิตรของยูเครนให้คำมั่นว่าจะส่งทหารไปเป็น "กองกำลังสร้างความมั่นใจ" แก่ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามครั้งนี้ทันทีที่การสู้รบกับรัสเซียสิ้นสุดลง

มาครงกล่าวหลังการประชุมของกลุ่ม “พันธมิตรผู้เต็มใจ” (coalition of the willing) ในกรุงปารีสว่า ประเทศเหล่านี้ได้ให้คำมั่นที่จะส่งกำลังทหารเข้าไปในยูเครน หรือคงกำลังพลไว้ทั้งทางบก ทางทะเล หรือทางอากาศ เพื่อช่วยรับประกันความมั่นคงของยูเครน หลังจากมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงหรือสันติภาพ

นายโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กับผู้นำชาติยุโรป ยังได้พบกับนายสตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ซึ่งแต่งตั้งโดย โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพ โดยหารือเรื่องความมั่นคงของยูเครน ขณะที่ชาติพันธมิตรพยายามหาทางรับประกันการสนับสนุนทางทหารระยะยาว และทำให้สหรัฐฯ ยังสนับสนุนยูเครนต่อไปหลังสงครามจบลง

ตามรายงานของนายเซอร์ฮี นิกิโฟรอฟ เลขาธิการฝ่ายสื่อมวลชนประจำประธานาธิบดียูเครน เซเลนสกีได้จัดการประชุมแบบปิดกับสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้ได้รับเชิญเพื่อหารือเรื่องการให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครน รวมถึงการร่างแผนการสนับสนุนทางทหารในกรณีที่มีการหยุดยิงเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่ม ย้ำด้วยว่า “กองกำลังสร้างความมั่นใจ” นี้ จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา

สำนักงานของสตาร์เมอร์กล่าวหลังการประชุมว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษ “เน้นย้ำว่ากลุ่มพันธมิตรนี้มีคำมั่นที่แน่วแน่ต่อยูเครน โดยได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีทรัมป์ และเป็นที่แน่ชัดว่าขณะนี้พวกเขาต้องเดินหน้ากดดันประธานาธิบดีปูตินยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อให้เขายอมยุติการสู้รบ”

...

นอกจากนี้ สำนักงานของสตาร์เมอร์ยังกล่าวถึงการตัดสินใจของกลุ่มพันธมิตรที่จะจัดหาขีปนาวุธพิสัยไกลแก่ยูเครน “เพื่อเสริมคลังอาวุธของประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” ด้วย


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : cna