เครื่องบินที่ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกำลังโดยสาร ถูกโจมตีด้วยการรบกวนสัญญาณระบบนำทางจีพีเอส ก่อนที่เครื่องจะเดินทางถึงบัลแกเรีย แต่สุดท้ายเครื่องบินสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ระบบนำทางของเครื่องบินซึ่งนาง เออร์ซูลา วอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กำลังโดยสาร ถูกรบกวนขณะที่เครื่องกำลังจะเดินทางถึงภาคใต้ของบัลแกเรีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (31 ส.ค. 2568) แต่เครื่องยังลงจอดได้อย่างปลอดภัย

นายอันเดรียส คูบิเลียส กรรมาธิการฝ่ายกลาโหมของคณะกรรมาธิการยุโรประบุในแถลงการณ์ว่า พวกเขาได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของบัลแกเรียว่า พวกเขาสงสัยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการแทรกแซงอย่างโจ่งแจ้งของรัสเซีย

“การข่มขู่คุกคามคือองค์ประกอบปกติในพฤติกรรมเป็นปรปักษ์ของรัสเซีย” แถลงการณ์ระบุ และเสริมว่า เหตุการณ์นี้จะยังเพิ่มความมุ่งมั่นของพวกเขาในการยกระดับขีดความสามารถในการป้องกันและสนับสนุนยูเครน และสหภาพยุโรปจะส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรต่ำของโลกมากขึ้น เพื่อสร้างความสามารถในการตรวจจับการรบกวนจีพีเอส

แถลงการณ์ระบุอีกว่า รัฐบาลบัลแกเรียได้ยืนยันแล้วว่า ระหว่างการบิน สัญญาณดาวเทียมที่ส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบนำทางของเครื่องบินลำนี้ถูกรบกวน ทำให้ผู้บังคับการบินต้องเสนอแนะวิธีลงจอดแบบอื่นๆ โดยใช้เครื่องมือนำทางที่อ้างอิงจากภูมิประเทศ เพื่อรับประกันความปลอดภัยในการบิน

ด้านสำนักข่าว ไฟแนนเชียล ไทม์ส (FT) รายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนามว่า เครื่องบินที่นางวอน แดร์ เลเยน โดยสาร ต้องลงจอดที่สนามบินพรอฟดิฟ โดยที่นักบินต้องใช้การดูแผนที่กระดาษ ขณะที่นายดีมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียบอกกับ FT ว่า ข้อมูลที่พวกเขารายงานนั้นไม่ถูกต้อง

...

ทั้งนี้ สำนักงานบริการการจราจรทางอากาศของบัลแกเรียเคยออกมาเปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับจีพีเอส รวมถึงการรบกวนสัญญาณ เกิดเพิ่มขึ้นจนรู้สึกได้ นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่รัสเซียยกทัพบุกโจมตียูเครนอย่างเต็มรูปแบบ

มีรายงานการรบกวนสัญญาณจีพีเอสจากสายการบินที่ให้บริการแถบชายฝั่งทะเลบอลติกหลายหมื่นครั้งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มบอลติกทั้งสามประเทศ ได้แก่ ลัตเวีย ลิทัวเนีย และเอสโตเนีย มีอาณาเขตติดกับดินแดนของรัสเซีย

เมื่อเดือนมีนาคม 2567 เครื่องบินของกองทัพอากาศอังกฤษที่นาย แกรนต์ แชปส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักรในตอนนั้นโดยสาร ก็ถูกโจมตีด้วยวิธี “สปูฟฟิง” (spoofing) คือการแทนที่สัญญาณที่ถูกต้องต่างๆ ด้วยสัญญาณปลอม เพื่อให้ระบุตำแหน่งผิดพลาด ในขณะที่บินใกล้ดินแดนคาลินินกราด

เหตุการณ์ดังกล่าวถึงกับทำให้สำนักงานความปลอดภัยการบินของสหภาพยุโรป (EASA) กับสมาคมการคมนาคมทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) จัดการประชุมวาระพิเศษ เพื่อหารือเรื่องเหตุการณ์สปูฟฟิงต่างๆ และเตือนว่า มันอาจเป็นความท้าทายอย่างมีนัยสำคัญต่อความปลอดภัยในการบิน


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : bbc