วลาดิเมียร์ ปูติน เผยว่า เขาได้บรรลุความเข้าใจร่วมกันกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เรื่องการยุติสงครามยูเครนแล้ว แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเขาตอบรับเจรจากับนายเซเลนสกีหรือไม่

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 1 ก.ย. 2568 ว่า นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เปิดเผยว่า เขาได้บรรลุความเข้าใจร่วมกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรื่องการยุติสงครามยูเครนแล้ว ตอนที่ทั้งสองคนได้พบปะพูดคุยกันที่รัฐอะแลสกาเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ปูตินเปิดเผยเรื่องดังกล่าวระหว่างการเยือนเมืองเทียนจิน ประเทศจีน เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดชาติสมาชิกองค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) และระบุว่า “ผมหวังว่า การเดินทางไปยังทิศทางนี้ จะเปิดทางไปสู่สันติในยูเครน”

อย่างไรก็ตาม ปูตินไม่ได้ระบุว่า เขาเห็นชอบเรื่องการเจรจาสันติภาพกับนายโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ซึ่งนายทรัมป์พยายามผลักดันหรือไม่ โดยนายทรัมป์กล่าวเมื่อ 22 ส.ค.ว่า จะให้เวลานายปูตินอีก 2 สัปดาห์ เพื่อตกลงเจรจาสันติภาพกับนายเซเลนสกี ก่อนที่สหรัฐฯ จะมีมาตรการลงโทษ

ผู้นำรัสเซียยังคงกล่าวปกป้องการตัดสินใจยกทัพบุกโจมตียูเครนเต็มรูปแบบ และกล่าวโทษชาติตะวันตกอีกครั้งว่าเป็นต้นเหตุทำให้เกิดสงคราม “วิกฤตนี้ไม่ได้เกิดเพราะการที่รัสเซียโจมตียูเครน แต่เป็นผลจากการรัฐประหารในยูเครน ซึ่งได้รับการสนับสนุนและยั่วยุโดยชาติตะวันตก”

ปูตินกล่าวด้วยว่า สงครามนี้เป็นผลมาจากการที่ชาติตะวันตกพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะลากยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต ซึ่งเป็นสิ่งที่รัสเซียต่อต้านมาตลอด ในขณะที่ชาติตะวันตกก็ปฏิเสธเหตุผลที่รัสเซียหยิบยกขึ้นมาทั้งสองข้อเช่นกัน

ทั้งนี้ เมื่อปี 2557 กลุ่มผู้ประท้วงฝ่ายสนับสนุนการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปในยูเครน ออกมาเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงนำไปสู่การโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดี วิกตอร์ ยานูโควิช ผู้ฝักฝ่ายรัสเซียและพยายามเตะถ่วงกระบวนการเข้าร่วมกับ EU

...

แต่หลังจากรัฐบาลถูกโค่น กลับเกิดการลุกฮือของกลุ่มติดอาวุธฝักฝ่ายรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครน และยึดครองพื้นที่หลายส่วนของแคว้นโดเนตสก์กับแคว้นลูฮานสก์เอาไว้ ขณะเดียวกันก็มีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายเข้ายึดสถานที่สำคัญในแคว้นไครเมีย และมีการลงประชามติซึ่งผลปรากฏว่าเสียงส่วนใหญ่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : bbc