เจ้าหน้าที่สหรัฐฯร่วมกับองค์กรพิทักษ์สัตว์บุกช่วยเหลือ สุนัขและลูกสุนัขกว่า 100 ชีวิต จากฟาร์มเพาะพันธุ์สัตว์ในรัฐแมริแลนด์ หลังได้รับรายงานการละเมิดและเลี้ยงดูอย่างไร้มนุษยธรรม

เจ้าหน้าที่องค์กรพิทักษ์สัตว์ Humane World for Animals ในสหรัฐอเมริกา เผยภาพเหตุการณ์สุดสะเทือนใจ ขณะบุกเข้าช่วยเหลือ สุนัขและลูกสุนัขกว่า 100 ตัว จากฟาร์มเพาะพันธุ์สุนัขในเขตฮาร์ฟอร์ด รัฐแมริแลนด์ หลังได้รับรายงานการละเมิดและเลี้ยงอย่างไร้มนุษยธรรม

โดยทันทีที่เข้าไปถึง เจ้าหน้าที่ต้องเผชิญกับกลิ่นแอมโมเนียและกลิ่นอุจจาระที่อบอวลไปทั่วบ้าน และภาพที่เห็นทำให้หลายคนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ สุนัขบางตัวถูกขังในกรงลวดซ้อนกันอย่างแออัด กรงหนึ่งมีสุนัขถึง 2–3 ตัวในพื้นที่กว้างเพียงฟุตเศษ บางตัวถูกบังคับให้ยืนทับกันตลอดเวลา หลายตัวผอมโซ ขนพันเป็นก้อน มีแผลติดเชื้อ ฟันผุรุนแรง ตาอักเสบ และผิวหนังอักเสบจากความสกปรก

ที่น่าเศร้าที่สุดคือการพบแม่สุนัขตัวหนึ่งกำลังให้นมลูกอ่อนวัยเพียง 3 สัปดาห์ ข้างๆ ซากลูกสุนัขที่เพิ่งตาย ขณะที่ลูกสุนัขอีกหลายตัวมีร่องรอยถูกปัสสาวะกัดผิวหนัง

สเตซีย์ โวโลดิน ผู้อำนวยการ Humane World for Animals ประจำรัฐแมริแลนด์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า

"มันเป็นภาพที่บีบหัวใจอย่างที่สุด แค่เพียงก้าวเดินไม่กี่ก้าวก็ต้องเหยียบย่ำไปบนสิ่งปฏิกูลและหลบสุนัขที่นอนอยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่พวกมันต้องอยู่ในนรกแบบนี้"

ด้านเชอริฟ เจฟฟรีย์ กาห์เลอร์ ย้ำว่าความร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่นและพลเมืองผู้ห่วงใยสัตว์ คือพลังสำคัญที่ช่วยให้สุนัขเหล่านี้รอดพ้นจากการทารุณกรรม พร้อมย้ำว่าทุกชีวิตสมควรได้รับศักดิ์ศรีและการดูแลอย่างเหมาะสม

สำหรับสุนัขที่ถูกช่วยเหลือ พบว่าเป็นส่วนหนึ่งของฟาร์มเพาะพันธุ์พันธุ์ ฮาวานีส และ บีเวอร์เทอร์เรียร์ที่โฆษณาว่ามีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ขึ้นทะเบียนกับ American Kennel Club แต่เบื้องหลังพวกมันกลับถูกเลี้ยงดูแบบละเลยและต้องทนทุกข์ทรมาน

...

ขณะนี้สุนัขทั้งหมดถูกเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ปลอดภัยเพื่อรับการตรวจสุขภาพโดยสัตวแพทย์ และมีอาสาสมัครจากกลุ่ม RedRover Responders เข้ามาช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว.

ที่มา : Humane world for animals

คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ ทารุณกรรมสัตว์