รัฐบาลทหารเมียนมาออกประกาศ ตราหน้า "กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู" กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ เป็น “องค์กรก่อการร้าย” เพื่อตอบโต้หลังเคเอ็นยูไม่รับรองการเลือกตั้ง

วันที่ 28 สิงหาคม 2568 รัฐบาลทหารเมียนมาเผยแพร่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการ โดยคณะกรรมการกลางต่อต้านการก่อการร้าย และกระทรวงมหาดไทย แถลงประกาศให้ “สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง” หรือ เคเอ็นยู (Karen National Union - KNU) เป็น “องค์กรก่อการร้าย” และ “สมาคมผิดกฎหมาย”

แถลงการณ์ระบุว่า กองกำลังกะเหรี่ยงได้ก่อเหตุโจมตีสร้างความเสียหายต่อความปลอดภัยสาธารณะ ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน มุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ รวมถึงทำลายอาคารและทรัพย์สินของรัฐ อีกทั้งยังกล่าวหาว่าเคเอ็นยูวางระเบิด สังหารพลเรือน และบังคับเกณฑ์สมาชิก

ด้านกระทรวงมหาดไทยเมียนมาระบุเพิ่มเติมว่า เคเอ็นยูและผู้เกี่ยวข้องถือเป็นภัยร้ายแรงต่อหลักนิติธรรม ความสงบสุข ความมั่นคง และความอยู่ดีมีสุขของรัฐและประชาชน

การประกาศดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังเคเอ็นยูออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับการเลือกตั้งที่กองทัพเตรียมจัดขึ้น โดยมองว่าเป็นเพียงแผนยืดอำนาจเผด็จการทหาร

โดยนายนายซอ ตอว์ นี โฆษกเคเอ็นยู ตอบโต้อย่างรุนแรงว่า เป็นการโกหกแบบเต็มปากเต็มคำ เมื่อขโมยตะโกนแจ้งจับขโมย พร้อมย้ำว่าศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) และแม้แต่ศาลในอาร์เจนตินา ต่างก็มีการออกหมายจับหรือเตรียมดำเนินคดีต่อรัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นชัดว่าใครคือผู้ก่อการร้ายตัวจริง

ขณะที่นายซอ ธะเมง ตุน แห่งคณะกรรมการกลางเคเอ็นยู กล่าวเสริมว่า การเลือกตั้งที่กองทัพวางแผนจัดขึ้นนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมายแม้แต่ตามรัฐธรรมนูญปี 2008 ของกองทัพเอง พร้อมชี้ว่าการที่รัฐบาลทหารออกมาประกาศเช่นนี้ ก็เพราะไม่พอใจต่อเคเอ็นยูที่ปฏิเสธการเลือกตั้ง

...

ทั้งนี้ เคเอ็นยูถูกก่อตั้งขึ้นหลังเมียนมาได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1948 เพื่อเรียกร้องสิทธิในการปกครองตนเองของชนกลุ่มกะเหรี่ยง เคยถูกประกาศเป็นองค์กรผิดกฎหมายหลังรัฐประหารโดยนายพลเนวินในปี 2505 แต่สถานะดังกล่าวถูกเพิกถอนโดยรัฐบาลกึ่งพลเรือนของเต็งเส่ง ก่อนที่เคเอ็นยูจะลงนามในข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ (NCA) เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2558

อย่างไรก็ตาม หลังการรัฐประหารของกองทัพเมียนมาในปี 2564 เคเอ็นยูถือว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นโมฆะ และกลับมาสู้รบเต็มรูปแบบอีกครั้ง โดยล่าสุดกองกำลังกะเหรี่ยงสามารถยึดพื้นที่สำคัญในรัฐกะเหรี่ยง โดยเฉพาะเมืองกอกาเร็ก ซึ่งยังคงมีการสู้รบอย่างดุเดือด.