เจ้าหน้าที่ทางการยูเครนรายงานว่า กรุงเคียฟถูกโจมตีอย่างหนักด้วยขีปนาวุธและโดรนจากรัสเซียในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 ศพ ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 3 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 38 ราย
นายวิตาลี คลิทช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ กล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นการโจมตีที่ "รุนแรง" โดยอาคาร 5 ชั้นแห่งหนึ่งในเขตดาร์นิตสกี้พังถล่มลงมา และยังมีรายงานไฟไหม้อาคารที่พักอาศัยสูงในเขตดีนีโปรที่อยู่ใกล้เคียง
การโจมตีด้วยขีปนาวุธระลอกล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า บ้านเรือนกว่า 100,000 หลังในยูเครนไม่มีไฟฟ้าใช้ จากการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซียด้วยโดรน
นายไทมัวร์ ทคาเชนโก หัวหน้าฝ่ายบริหารการทหารของกรุงเคียฟ โพสต์ข้อความในเทเลแกรมว่า เด็กที่เสียชีวิตเป็นเด็กอายุ 2, 14 และ 17 ปี และมีเด็กอย่างน้อย 5 คนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีด้วยโดรนระลอกล่าสุด นอกจากนี้ยังมีเขตที่ถูกโจมตีมากกว่า 20 เขต และอาคารหลายแห่งรวมถึงโรงเรียนอนุบาลเกิดไฟไหม้
หลังการรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบของรัสเซียผ่านมากว่า 3 ปีครึ่ง สถานการณ์การสู้รบยังคงไม่มีทีท่าว่าจะยุติ ความพยายามล่าสุดในการหยุดยิงนำโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งได้พบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่รัฐอะแลสกา และพบกับประธานาธิบดีเซเลนสกีและผู้นำยุโรปที่กรุงวอชิงตัน ดีซี
นายทรัมป์ผลักดันให้มีการประชุมสุดยอดระหว่างปูตินและเซเลนสกี ซึ่งผู้นำยูเครนก็เห็นด้วย แต่เขาต้องการการรับประกันความปลอดภัยจากชาติพันธมิตรตะวันตก เพื่อป้องกันการโจมตีจากรัสเซียในอนาคต หากมีการบรรลุข้อตกลงสันติภาพ
...
ขณะเดียวกัน นายเซเลนสกีได้พบกับพลเรือเอกเซอร์โทนี ราดาคิน ผู้บัญชาการทหารอังกฤษ ที่กรุงเคียฟเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อหารือเรื่องการยุติสงคราม ด้านนายสตีฟ วิทคอฟฟ์ ทูตพิเศษของสหรัฐฯ เปิดเผยกับฟ็อกซ์นิวส์ว่า เขาจะพบกับตัวแทนของยูเครนที่นิวยอร์กในสัปดาห์นี้ และกล่าวว่า "เราคุยกับรัสเซียทุกวัน"
อย่างไรก็ตาม นางไคยา คัลลาส หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป ได้เตือนว่า การยอมยกดินแดนยูเครนให้รัสเซียเพื่อแลกกับข้อตกลงสันติภาพนั้นเป็น "กับดัก".
ที่มา BBC