สหประชาชาติกล่าวว่า "จำเป็นต้องมีความยุติธรรม" หลังจากที่อิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลในฉนวนกาซา 2 ครั้ง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ศพ รวมทั้งนักข่าว 5 ราย และบุคลากรทางการแพทย์ 4 ราย
สหประชาชาติออกมาเรียกร้องให้มี "ความยุติธรรม" หลังเหตุอิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลนัสเซอร์ เมืองข่านยูนิส แบบยิงซ้ำสองครั้งเมื่อวันจันทร์ (25 ส.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน รวมทั้งนักข่าว 5 ราย และบุคลากรทางการแพทย์ 4 ราย ขณะที่กองทัพอิสราเอล (IDF) อ้างว่าเป้าหมายคือ “กล้องที่ฮามาสติดตั้งไว้เพื่อสอดส่องกองกำลังอิสราเอล” แต่ยอมรับว่าการโจมตียังมี "ช่องว่าง" ที่ต้องสอบสวนต่อ
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อจรวดลูกแรกสังหารช่างภาพรอยเตอร์ซึ่งกำลังถ่ายทอดสดอยู่บริเวณบันไดโรงพยาบาล และอีกสิบกว่านาทีต่อมาก็มีการยิงซ้ำในจุดเดิม ทำให้นักข่าวและเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้ามาช่วยเสียชีวิตเพิ่มเติม เหตุการณ์นี้ถูกประณามอย่างกว้างขวาง โดยโฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติย้ำว่า "ต้องมีการสอบสวนอย่างโปร่งใส และผู้กระทำต้องถูกนำตัวมารับผิดชอบ"
แม้นายกฯ เนทันยาฮู ระบุเพียงว่าเป็น "ความผิดพลาดน่าเศร้า" แต่รายงานของ IDF ยังไม่ได้อธิบายว่าทำไมต้องยิงซ้ำ และระบุเพียงว่ากำลังตรวจสอบขั้นตอนอนุมัติการใช้กระสุนและการตัดสินใจในสนามรบเพิ่มเติม
ภายในอิสราเอลเอง มีการประท้วงครั้งใหญ่ ปิดถนนหลายสายและชุมนุมในนครเทลอาวีฟ เพื่อกดดันรัฐบาลยอมรับข้อเสนอหยุดยิงและข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวประกัน ขณะที่ครอบครัวผู้ถูกจับเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งหาทางออก ล่าสุดยังมีตัวประกัน 50 คนในกาซา ซึ่งเชื่อว่าประมาณ 20 คนยังมีชีวิตอยู่
กาตาร์ซึ่งเป็นคนกลางการเจรจาเผยว่ายังรอคำตอบจากอิสราเอลต่อข้อเสนอหยุดยิงชุดล่าสุด ส่วนสหรัฐฯ เตรียมประชุมที่ทำเนียบขาวในวันพุธ เพื่อหารือแผนฟื้นฟูกาซาหลังสงคราม
...
ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขกาซาระบุว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 75 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้ยอดรวมตั้งแต่สงครามเริ่มต้นเมื่อ 7 ตุลาคม 2023 แตะกว่า 62,800 คนแล้ว ประชากรส่วนใหญ่ถูกบังคับให้พลัดถิ่นหลายครั้ง บ้านเรือนกว่า 90% พังเสียหาย และระบบสาธารณสุข น้ำ และสุขอนามัยล่มสลาย
รายงานของหน่วยงานภายใต้ยูเอ็นยืนยันว่ากาซาซิตีและพื้นที่รอบข้างกำลังเผชิญภาวะ "ความอดอยากอย่างรุนแรง" มีประชาชนกว่าครึ่งล้านคนตกอยู่ในสภาพ "อดอยาก ไร้ที่พึ่ง และเสี่ยงตาย" แต่รัฐบาลอิสราเอลปฏิเสธ โดยระบุว่าเป็น "เรื่องโกหกโดยสิ้นเชิง".
ที่มา BBC