ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศปลด ลิซา คุก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกจากตำแหน่งทันที นับเป็นการยกระดับความขัดแย้งกับเฟดอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ทรัมป์โพสต์จดหมายบนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียล แจ้งต่อคุกว่าเขามี “เหตุผลเพียงพอ” ที่เชื่อว่าเธอให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับเอกสารการกู้ซื้อบ้าน โดยอ้างอำนาจตามรัฐธรรมนูญในการถอดถอนเธอจากคณะกรรมการเฟด

ด้านคุกตอบโต้ทันทีว่า ทรัมป์ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการปลดเธอ และยืนยันว่าจะไม่ลาออก"เขาอ้างว่าปลดฉัน ‘ด้วยเหตุผลอันควร’ ทั้งที่กฎหมายไม่รองรับ ฉันจะยังคงปฏิบัติหน้าที่เพื่อเศรษฐกิจสหรัฐเหมือนเดิม"

เฟดยังไม่ออกความเห็นต่อกรณีดังกล่าว ขณะที่นักกฎหมายหลายฝ่ายระบุว่า การปลดผู้ว่าการเฟดเช่นนี้อาจนำไปสู่การต่อสู้ทางกฎหมาย เนื่องจากเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 111 ปีของธนาคารกลางสหรัฐ

ทรัมป์กล่าวหาว่าคุกลงนามเอกสารจำนองบ้านในรัฐมิชิแกน ที่ระบุว่าจะใช้เป็นที่อยู่อาศัยหลักหนึ่งปี แต่ 2 สัปดาห์ต่อมาเธอกลับลงนามเอกสารอีกชุดในรัฐจอร์เจียโดยระบุเช่นเดียวกัน ซึ่งเขามองว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ขัดแย้งและอาจเข้าข่ายทุจริตจำนอง

ข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกหยิบยกขึ้นโดย บิล พัลท์ พันธมิตรของทรัมป์ และส่งเรื่องถึงกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอให้สอบสวน แต่ยังไม่ชัดเจนว่ามีการเปิดการสอบสวนหรือไม่ ขณะที่คุกยืนยันว่าเรื่องนี้เกิดจากการขอสินเชื่อเมื่อ 4 ปีก่อน และเธอไม่เคยตั้งใจปกปิดข้อมูล

การเคลื่อนไหวของทรัมป์เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดกับเฟด โดยเฉพาะกับนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ซึ่งเขามองว่าดื้อดึงไม่ยอมลดดอกเบี้ยตามที่ตนต้องการ แม้ล่าสุดพาวเวลล์ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน

ทั้งนี้ คุกเป็นสตรีผิวสีคนแรกที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าการเฟด และเป็น 1 ใน 7 สมาชิกคณะกรรมการ หากเธอหรือเฟดปฏิเสธคำสั่งปลด อาจนำไปสู่การเผชิญหน้าครั้งใหญ่ระหว่างทำเนียบขาวกับธนาคารกลางที่มีอิสระจากรัฐบาลมาตั้งแต่ปี 1951

...

ตลาดเงินเอเชียตอบสนองต่อข่าวดังกล่าวทันที ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อวันอังคาร นักลงทุนคาดว่าผู้ที่จะมาแทนคุกอาจสนับสนุนการลดดอกเบี้ยมากขึ้น.


ที่มา BBC