(เครดิตภาพ AFP PHOTO / US DISTRICT COURT FOR THE SOUTHERN DISTRICT OF NEW YORK)
รัฐบาลสหรัฐฯ เผยบันทึกการสัมภาษณ์ กิสเลน แม็กซ์เวลล์ คนสนิทของ เจฟฟรีย์ เอปสตีน โดยเธอยืนยันว่าไม่เคยเห็นนายทรัมป์ประพฤติไม่เหมาะสม และไม่เชื่อว่าเอปสตีนจบชีวิตตัวเอง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 23 ส.ค. 2568 ว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยบันทึกบทสนทนาและไฟล์เสียงการสัมภาษณ์ น.ส.กิสเลน แม็กซ์เวลล์ คนสนิทของ เจฟฟรีย์ เอปสตีน ผู้ต้องหาคดีทางเพศและค้ามนุษย์ ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนก่อนออกมาแล้ว โดยเธอยืนยันว่า ไม่เคยเห็น โดนัลด์ ทรัมป์ หรืออดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน ประพฤติไม่เหมาะสม
รัฐบาลทรัมป์กำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับคดีของนายเอปสตีน ซึ่งเคยมีความสัมพันธ์อันดีกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แม้นายทรัมป์จะยืนยันว่า เขาตัดขาดกับชายคนนี้ตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เอปสตีนถูกแฉว่าล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์ และว่าศัตรูทางการเมืองพยายามใช้เรื่องนี้ทำลายชื่อเสียงของเขา
น.ส.แม็กซ์เวลล์ให้สัมภาษณ์กับนาย ทอดด์ แบรนช์ รองอัยการสูงสุดสหรัฐฯ เมื่อเดือนกรกฎาคม จากภายในเรือนจำ โดยเธอยืนยันว่า “รายชื่อลูกค้า” ของเอปสตีนที่มีการพูดถึงกันอย่างมากในช่วงที่ผ่านมานั้น “ไม่มีอยู่จริง”
เธอบอกด้วยว่า ข้อกล่าวหาที่ว่าเจ้าชายแอนดรูว์ พระอนุชาของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร มีความสัมพันธ์ทางเพศกับหญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะที่บ้านของแม็กซ์เวลล์นั้นเป็นเรื่องที่ “เป็นไปไม่ได้อย่างยิ่ง”
ทั้งนี้ แม็กซ์เวลล์กำลังรับโทษจำคุก 20 ปี ในข้อหาค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณี และข้อหาทางเพศอื่นๆ แต่เธอกำลังหาทางขออภัยโทษจากโดนัลด์ ทรัมป์ และยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุดให้กลับคำตัดสินของเธอแล้ว
...
ด้านทำเนียบขาวสหรัฐฯ ยืนยันว่า ไม่ได้กำลังหารือหรือมีการลดหย่อนโทษในคดีของแม็กซ์เวลล์
อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากการให้สัมภาษณ์กับนายแบรนช์ ซึ่งเคยเป็นอัยการส่วนตัวของนายทรัมป์ แม็กซ์เวลล์ก็ถูกย้ายจากเรือนจำในรัฐฟลอริดา ไปยังเรือนจำความมั่นคงต่ำแห่งใหม่ในรัฐเท็กซัส โดยไม่มีการเปิดเผยเหตุผลแน่ชัดว่าเหตุใดเธอจึงถูกย้าย
แม็กซ์เวลล์เปิดเผยอะไรบ้าง?
ในบันทึกการสนทนา ซึ่งมีความหนาประมาณ 300 หน้า และมีเนื้อหาบางส่วนถูกปกปิดเอาไว้ แม็กซ์เวลล์กล่าวว่า เธอเชื่อว่านายทรัมป์กับนายเอปสตีนเป็นมิตรกันในสถานการณ์ทางสังคมเท่านั้น ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกัน
“จริงๆ แล้ว ฉันไม่เคยเห็นท่านประธานาธิบดีไปใช้บริการนวดรูปแบบใดๆ เลย” แม็กซ์เวลล์กล่าว สื่อถึงบริการนวดที่เหยื่อบางรายของเอปสตีนพูดถึง “ท่านประธานาธิบดีไม่เคยประพฤติไม่เหมาะสมกับใคร” “ในตอนที่ฉันอยู่กับเขา เขาเป็นสุภาพบุรุษในทุกๆ ด้าน”
ส่วนเรื่องโน้ตอวยพรวันเกิดอายุครบ 50 ปี ที่สื่อสหรัฐฯ รายงานว่านายทรัมป์เคยส่งให้นายเอปสตีนเมื่อปี 2546 แม็กซ์เวลล์ระบุว่า เธอจำไม่ได้ว่านายทรัมป์เคยส่งไป
แม็กซ์เวลล์ถูกถามเรื่องบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคนรวมถึง บิลล์ เกตส์, อีลอน มัสก์, เอฮุด บารัค อดีตนายกรัฐมนตรีอิสราเอล, โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รมว.สาธารณสุข, เควิน สเปซีย์ นักแสดงชื่อดัง, นางแบบสาว นาโอมิ แคมป์เบลล์ และเจ้าชายแอนดรูว์ โดยเธอปฏิเสธว่าไม่ได้แนะนำคนเหล่านี้ให้รู้จักกับเอปสตีน
ระหว่างการสัมภาษณ์ นายแบรนช์ได้ถามแม็กซ์เวลล์เรื่อง “รายชื่อลูกค้า” ของเอปสตีน ซึ่งกลายเป็นทฤษฎีสมคบคิดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ว่ามีรายชื่อลูกค้าที่เต็มไปด้วยชื่อของบุคคลระดับสูงและผู้มีชื่อเสียงมากมาย แต่ถูกเก็บซ่อนไว้โดยขบวนการ “ดีป สเตต” (deep state) หรือผู้มีอำนาจที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง เพื่อปกป้องคนเหล่านั้น
เจ้าหน้าที่หลายคนในรัฐบาลทรัมป์ รวมถึง นายคาช พาเทล ผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนกลาง (FBI) และนายแดน บอนจิโน รองผู้อำนวยการ FBI ต่างเคยพูดถึงรายชื่อลูกค้านี้ ก่อนจะถอนคำพูดในเวลาต่อมา และแม็กซ์เวลล์ยืนยันกับนายแบรนช์ว่า รายชื่อดังกล่าว “ไม่มีอยู่จริง”
แม็กซ์เวลล์ยังพูดเรื่องเจ้าชายแอนดรูว์ ผู้ต้องถอนตัวจากการปฏิบัติพระกรณียกิจของราชวงศ์อังกฤษ เนื่องจากความสัมพันธ์ของเขากับเอปสตีน
โดยก่อนหน้านี้ เจ้าชายแอนดรูว์เคยพูดว่า แม็กซ์เวลล์คือคนที่แนะนำให้เขารู้จักกับนายเอปสตีน แต่แม็กซ์เวลล์ยืนยันว่า เรื่องนั้นไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง
ส่วนเรื่องข้อกล่าวหาที่ว่าเจ้าชายแอนดรูว์ มีความสัมพันธ์ทางเพศกับ เวอร์จิเนีย จุฟเฟร ซึ่งชื่อถูกลบออกจากบันทึกบทสนทนา ที่บ้านของแม็กซ์เวลล์นั้น อดีตคู่ขาของเอปสตีนรายนี้ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง โดยอ้างเรื่องขนาดบ้านของเธอ
และเมื่อถูกถามเรื่องรูปสุดฉาวที่เจ้าชายแอนดรูว์ถ่ายคู่กับจุฟเฟร โดยมีแม็กซ์เวลล์ยืนยิ้มด้านหลัง แม็กซ์เวลล์อ้างว่านั่นเป็นภาพปลอม
แม็กซ์เวลล์เปิดเผยด้วยว่า เธอรู้จักกับเอปสตีนครั้งแรกในปี 2534 ก่อนจะพัฒนาจะมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว และถึงแม้ว่าความสัมพันธ์จะจบลงในเวลาต่อมา เอปสตีนก็ยังคงโอนเงินให้แม็กซ์เวลล์หรือบริษัทของเธอกว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ปี 2542 ถึง 2550
แม็กซ์เวลล์ยืนยันว่า เงินดังกล่าวไม่ใช่ค่านายหน้าจัดหาผู้เยาว์ตามที่ศาลกล่าวหา แต่ก็อธิบายไม่ได้ว่าเงินนี้คืออะไร โดยเธอระบุว่า เงินบางส่วนอาจถูกโอนเข้าบัญชีที่ควบคุมโดยนักบัญชีของเอปสตีน หรือเป็นเงินสินเชื่อที่เอปสตีนให้กับธุรกิจของเธอ พร้อมยืนยันว่า เธอกับเอปสตีนแทบไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อกันอีก หลังจากปี 2553 จนถึงตอนที่เขาเสียชีวิต
...
อนึ่ง เอปสตีนเสียชีวิตภายในเรือนจำในรัฐนิวยอร์กเมื่อปี 2562 ขณะกำลังรอการไต่สวนคดีค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณี โดยผลการสืบสวนอย่างเป็นทางการชี้ว่า เขาจบชีวิตตัวเอง แต่แม็กซ์เวลล์ไม่คิดอย่างนั้น
“ฉันไม่เชื่อว่าเขาจบชีวิตตัวเอง ไม่เชื่อเลย” แม็กซ์เวลล์กล่าว หลังจากนายแบรนช์ถาม แต่ก็พูดอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ว่า เธอไม่มีเหตุผลใดๆ ให้เชื่อว่า เขาถูกฆ่าปิดปากเช่นกัน “ฉันคิดว่า หากนั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ พวกเขาก็มีโอกาสมากมายตอนที่เขาไม่ได้อยู่ในคุก”
เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา มีข่าวรายงานว่า นายทรัมป์ได้รับแจ้งจากอัยการสูงสุด แพม บอนดี ว่าชื่อของเขาปรากฏอยู่ในเอกสารอย่างเป็นทางการในการสืบสวนคดีของนายเอปสตีน แต่นายทรัมป์ไม่เคยถูกกล่าวหาใดๆ เกี่ยวกับคดีนี้ และเขาประกาศในการหาเสียงเมื่อปีก่อนว่า จะเปิดเผยข้อมูลคดีเอปสตีนให้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์กลับลำหลังจากรับตำแหน่งได้ไม่กี่เดือน โดยระบุว่า คดีนี้จบไปแล้ว และกล่าวโจมตีนักข่าวกับกลุ่มผู้สนับสนุนตัวเขาเอง ที่คอยกดดันเขาเรื่องนี้
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc