ยูเอ็นประกาศ “กาซาเข้าสู่ภาวะทุพภิกขภัย” มีคนอดตายแล้ว 2 ศพในรอบ 24 ชั่วโมง ขณะที่ยอดตายจากการโจมตีอิสราเอลพุ่งเกิน 62,000 ศพ ชี้นี่คือ “ความล้มเหลวของมนุษยชาติ”
วันที่ 22 สิงหาคม 2568 องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ประกาศว่า ฉนวนกาซาเข้าสู่ภาวะทุพภิกขภัย (Famine) อย่างเป็นทางการ หลังมีรายงานว่าชาวปาเลสไตน์ 2 คนเสียชีวิตจากความอดอยากภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขกาซา ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลอีก 71 ศพทั่วฉนวนกาซา
โดยหน่วยงานระบบการจัดระดับความมั่นคงทางอาหารแบบบูรณาการ (Integrated Food Security Phase Classification -IPC) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากยูเอ็น ระบุว่า ประชาชนกว่า 500,000 คน ในกาซากำลังเผชิญ “ความอดอยาก ความยากไร้ และความตาย” โดยมีการยืนยันว่าภาวะทุพภิกขภัยเกิดขึ้นจริงในเมืองกาซาซิตีและพื้นที่โดยรอบ และมีแนวโน้มลุกลามไปยังพื้นที่อื่นในเดือนหน้า
ทางด้านนายอันโตนิโอู กูเตียร์เรส เลขาธิการยูเอ็น กล่าวว่า วิกฤตการณ์ในกาซาถือเป็นความล้มเหลวของมนุษยชาติ พร้อมเรียกร้องให้อิสราเอลเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่พื้นที่โดยไม่จำกัด
ขณะเดียวกัน นายมาร์ติน กริฟฟิทส์ อดีตหัวหน้าฝ่ายมนุษยธรรมยูเอ็น และผู้อำนวยการองค์กรกลางด้านการไกล่เกลี่ยสากล (Mediation Group International) กล่าวว่า การประกาศครั้งนี้เป็น อาชญากรรมอันเลวร้ายที่มนุษย์สร้างขึ้น พร้อมโจมตีว่าชาติตะวันตกล่าช้าเกินไปในการตอบสนองต่อการกระทำของอิสราเอลในกาซา และตั้งคำถามว่า อีกเท่าไรที่รัฐบาลโลกจะลงมือจริงจังตามคำวินิจฉัยของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ที่สั่งห้ามการขายอาวุธให้อิสราเอล และให้สอบสวนการสังหารหมู่ที่เกิดขึ้น
...
ขณะที่เด็กจำนวนมากกำลังเผชิญภาวะขาดสารอาหาร เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์รายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในกาซาซิตีกับลูกชายสองคน เปิดเผยว่า เด็กจำนวนมากกำลังเผชิญภาวะขาดสารอาหาร พวกเขาไม่ได้กินอาหารเช้า เด็กหลายคนเวียนหัวเพราะความหิว
ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มสงครามเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 การโจมตีของอิสราเอลในกาซาทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 62,263 ศพและบาดเจ็บกว่า 157,365 คน ขณะที่อิสราเอลสูญเสียประชาชนไป 1,139 ศพและถูกจับตัวเป็นเชลยกว่า 200 คน
กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลปฏิเสธรายงานของยูเอ็น โดยอ้างว่า “กาซาไม่ได้เผชิญภาวะทุพภิกขภัย” และกล่าวหาว่าข้อค้นพบทั้งหมด “เป็นคำโกหกของฮามาส” พร้อมยังคงไม่อนุญาตให้องค์กรสื่อสากล รวมถึง BBC เข้าพื้นที่กาซาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างอิสระ.