แหล่งข่าวเผย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เสนอให้ยูเครนยอมยกพื้นที่ภูมิภาคดอนบาสทั้งหมด รวมถึงยกเลิกความพยายามเข้าร่วมองค์การนาโต และห้ามกองกำลังตะวันตกเข้ามาในยูเครน ด้านเจ้าหน้าที่อียูเตือนอย่าตกหลุมพราง
ตามรายงานจากแหล่งข่าวใกล้ชิดรัฐบาลรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียเสนอเงื่อนไขใหม่เพื่อยุติสงครามยูเครน หลังการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่รัฐอะลาสกาเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยปูตินเรียกร้องให้ยูเครนยกภูมิภาคดอนบาสทั้งหมดให้กับรัสเซีย รวมถึงยกเลิกความพยายามเข้าร่วมองค์การนาโต รักษาความเป็นกลาง และห้ามกำลังทหารตะวันตกเข้ามาประจำการในประเทศ
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการพบปะระดับสูงสุดรัสเซีย-สหรัฐฯ ในรอบกว่า 4 ปี โดยทั้งสองผู้นำใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง หารือถึงแนวทางประนีประนอมเพื่อยุติสงครามในยูเครน แม้ในการแถลงหลังการประชุมจะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดมากนัก แต่แหล่งข่าวระบุว่าปูตินแสดงท่าทีพร้อมปรับลดข้อเรียกร้องบางส่วนเมื่อเทียบกับข้อเสนอเดิมในปี 2024
ข้อเสนอล่าสุดของรัสเซียยังคงยืนยันให้ยูเครนสละพื้นที่ภูมิภาคดอนบาสที่ยังอยู่ในการควบคุม แต่ในทางกลับกัน รัสเซียพร้อมที่จะหยุดการรุกคืบในแคว้นซาโปริชเชียและเคอร์ซอน และอาจคืนพื้นที่เล็กน้อยที่ครอบครองในแคว้นคาร์คิฟ ซูมี และดนีโปรเปตรอฟสค์ ให้กับยูเครน ข้อมูลจากสหรัฐฯ ระบุว่าปัจจุบันรัสเซียครองพื้นที่ 88% ของดอนบาส และ 73% ของซาโปริชเชียและเคอร์ซอน
อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องสำคัญอื่น ๆ ของปูตินยังไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งการห้ามยูเครนเข้าร่วมนาโต การจำกัดกองทัพยูเครน และการรับรองอย่างเป็นทางการว่าจะไม่มีกำลังตะวันตกเข้ามาประจำการในยูเครน ขณะที่รัฐบาลเคียฟยังคงยืนยันไม่ยอมถอนตัวจากดินแดนที่ได้รับการยอมรับตามกฎหมายระหว่างประเทศ
...
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่าภูมิภาคดอนบาสเป็นปราการสำคัญในการสกัดกั้นรัสเซียและไม่อาจสละได้ พร้อมย้ำว่ายูเครนมีเป้าหมายตามรัฐธรรมนูญในการเข้าร่วมนาโต และเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่รัสเซียมีสิทธิ์กำหนด ขณะที่ทำเนียบขาวและนาโต้ยังไม่ให้ความเห็นต่อข้อเสนอนี้
ด้านนักการทูตระดับสูงของสหภาพยุโรป (อียู) ได้ออกมาเตือนว่าไม่ควรกดดันให้ยูเครนยอมยกดินแดนให้รัสเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพในอนาคต
ในการให้สัมภาษณ์ครั้งแรกนับตั้งแต่ผู้นำสหภาพยุโรปเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์กับยูเครนที่ทำเนียบขาว คายา คัลลาส กล่าวกับรายการทูเดย์ของบีบีซีว่า การปล่อยให้รัสเซียยึดครองดินแดนของยูเครนเป็น "กับดักที่ปูตินต้องการให้เราเดินเข้าไป" เธอยอมรับว่ายังไม่มี "ขั้นตอนที่เป็นรูปธรรม" มากนักสำหรับการใช้กำลังยับยั้งในขั้นตอนการเจรจานี้
เธอกล่าวว่าเป็นหน้าที่ของรัฐสมาชิกของ "พันธมิตรผู้สนับสนุนยูเครนสู่สันติภาพ" ที่จะกำหนดว่าพวกเขาสามารถมีส่วนร่วมได้มากเพียงใด และยังไม่ชัดเจนว่ากองกำลังเหล่านี้จะปฏิบัติการในฐานะใด
แม้รัสเซียยังควบคุมพื้นที่ยูเครนราว 1 ใน 5 แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดรัฐบาลรัสเซียมองว่าการประชุมที่รัฐอะลาสกา อาจเป็นโอกาสดีที่สุดในการเจรจาสันติภาพตั้งแต่สงครามเริ่มต้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักยังอยู่ที่การยอมรับของยูเครนและท่าทีของสหรัฐฯ รวมถึงข้อกังขาต่อความชอบธรรมของเซเลนสกี ซึ่งปูตินตั้งคำถามซ้ำ ๆ หลังวาระการดำรงตำแหน่งของเขาหมดไปตั้งแต่กลางปี 2024 แต่ยูเครนยืนยันว่าเซเลนสกียังเป็นประธานาธิบดีโดยชอบธรรม
ผู้นำยุโรปอย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ยังคงแสดงความไม่มั่นใจว่าปูตินมีความจริงใจต้องการยุติสงคราม ขณะที่ทรัมป์ย้ำว่าเขาต้องการยุติ "การนองเลือด" และพร้อมเดินหน้าจัดการประชุมสามฝ่ายระหว่างสหรัฐฯ รัสเซีย และยูเครนในอนาคตอันใกล้.