เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยก่อเหตุยิงนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น 2 คน อย่างอุกอาจกลางกรุงมะนิลา และนำมาแสดงตัวต่อสื่อมวลชน
ฟรานซิสโก โดมาโกโซ นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวชายชาวฟิลิปปินส์ 2 คน มาแสดงตัวต่อสื่อมวลชน ตำรวจกล่าวว่า ยังมีผู้ต้องสงสัยอีกอย่างน้อย 1 คน ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้วางแผนและสนับสนุนเงินทุนในการฆาตกรรม ยังคงหลบหนีอยู่ นายโดมาโกโซกล่าวว่า แรงจูงใจในการฆาตกรรมยังไม่ชัดเจน
ชาวญี่ปุ่น 2 คน ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ส.ค.) โดยหนึ่งในชายที่อยู่บนรถจักรยานยนต์ หลังจากทั้งคู่เพิ่งลงจากรถแท็กซี่ และถูกยิงเสียชีวิตต่อหน้าประชาชนในย่านมาลาเต ย่านท่องเที่ยวและบันเทิงของกรุงมะนิลา
เหยื่อถูกระบุว่าคือ อากิโนบุ นากายามะ อายุ 41 ปี และฮิเดอากิ ซาโตริ อายุ 53 ปี ชายทั้งสองคนถูกยิงเสียชีวิตหลังจากออกจากรถแท็กซี่เมื่อเวลาประมาณ 22.40 น. บนถนนมัลวาร์ ภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่แสดงให้เห็นรถแท็กซี่จอดอยู่ข้างถนน ไม่กี่นาทีต่อมา ชายสองคนลงจากรถและล้มลงอย่างกะทันหัน ประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างวิ่งหลบหนีจากที่เกิดเหตุ และเห็นรถจักรยานยนต์ซึ่งมีคน 2 คนกำลังขับด้วยความเร็วสูงไปทางเดียวกับรถแท็กซี่ที่กำลังเคลื่อนที่
ตำรวจกล่าวว่าคนร้ายได้เข้าประชิดตัวเหยื่อทันทีหลังจากลงจากรถแท็กซี่ จากนั้นจึงเปิดฉากยิงและขโมยกระเป๋าที่มีเงินสดและสิ่งของอื่นๆ ก่อนที่จะหลบหนีไปโดยรถจักรยานยนต์ เหยื่อทั้งสองเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ วันรุ่งขึ้น ชาวบ้านคนหนึ่งแจ้งว่ามีรถจักรยานยนต์ถูกทิ้งไว้ใกล้ที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่สืบสวนยืนยันว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นรถคันเดียวกับที่ใช้ในการหลบหนี จากบันทึกเจ้าของรถและคำให้การของพยาน ตำรวจสามารถระบุตัวและจับกุมผู้ต้องสงสัยทั้งสองได้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้มีการยื่นคำร้องทุกข์ทางอาญา รวมถึงการลักทรัพย์ ต่อผู้ต้องสงสัย
...
หนึ่งในผู้ต้องสงสัย ซึ่งมีรายงานว่าเป็นไกด์นำเที่ยว เชื่อว่าได้นั่งรถแท็กซี่คันดังกล่าวร่วมกับเหยื่อทั้งสองก่อนเกิดเหตุโจมตี เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุความสัมพันธ์ที่แน่ชัดระหว่างผู้ต้องสงสัยและเหยื่อได้
สื่อฟิลิปปินส์รายงานว่า ตามรายงานของตำรวจกรุงมะนิลา ผู้ต้องสงสัยถูกว่าจ้างโดยหัวหน้าแก๊งอาชญากรรมชาวญี่ปุ่น ซึ่งรายงานว่าได้จ่ายเงินจำนวนมากให้พวกเขาเพื่อก่อเหตุฆาตกรรม
สถานทูตญี่ปุ่นประจำกรุงมะนิลาแนะนำให้ชาวญี่ปุ่นที่อาศัยในฟิลิปปินส์ ตัวแทนธุรกิจ และนักท่องเที่ยวเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น.
ที่มา Asahi Shimbun ABS-CBN