ผู้ประท้วงจำนวนมากออกมาเดินขบวนตามท้องถนนในหลายเมืองของอิสราเอล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุติสงครามในฉนวนกาซา และให้ทำข้อตกลงเพื่อนำตัวประกันกลับมา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้ประท้วงจำนวนมากกว่า 300,000 คน ออกมาเดินขบวนในกรุงเทลอาวีฟ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 ส.ค. 2568 นับเป็นหนึ่งในการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การประท้วงเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน หลังพบตัวประกัน 6 คนเสียชีวิตในกาซา
องค์กร 2 กลุ่มซึ่งเป็นตัวแทนของครอบครัวตัวประกันและครอบครัวผู้เสียชีวิตวางแผนจัดการประชุมตามเมืองใหญ่ทั่วอิสราเอล ภายใต้ชื่อ “วันแห่งการลงมือทำแห่งชาติ” (national day of action) ส่งผลให้โรงเรียน, ธุรกิจ และบริการขนส่งสาธารณะต้องปิดทำการชั่วคราว เช่นเดียวกับร้านอาหาร และคาเฟ่
กลุ่มผู้ประท้วงแสดงความกังวลว่า หากสงครามในฉนวนกาซายังคงดำเนินต่อไป มันอาจเป็นอันตรายต่อตัวประกันราว 50 คนที่ยังอยู่ในกาซา โดยเชื่อกันว่าในจำนวนนี้มีเพียงประมาณ 20 คนเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยพวกเขาชูป้ายประท้วงที่มีข้อความว่า “เราจะไม่ชนะสงครามด้วยการก้าวข้ามศพของตัวประกัน”
น.ส.อาร์เบล ยาฮูด ผู้เคยถูกกลุ่มฮามาสลักพาตัวไปก่อนหน้า กล่าวที่เวทีหาเสียงในกรุงเทลอาวีฟว่า “ทางเดียวที่จะนำตัวประกันกลับมาได้คือผ่านการทำข้อตกลง และต้องลงมือทำเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องเล่นเกมการเมืองกันอีก”
การประท้วงในวันอาทิตย์เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากคณะรัฐมนตรีความมั่นคงของอิสราเอล อนุมัติแผนการให้ทหารเคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองกาซาซิตี้กับพื้นที่อื่นๆ เพื่อยึดครองฉนวนกาซาโดยสมบูรณ์ ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดการนองเลือดเพิ่มขึ้น และประชาชนอาจต้องอพยพครั้งใหญ่อีกครั้ง
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
...
ที่มา : aljazeera