โฆษกกลาโหมกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาไทย ยืนยันไม่ได้วางทุ่นระเบิดใหม่ หลังมีทหารไทยเหยียบเจ็บเพิ่มอีกนาย ชี้เตือนแล้วให้ระวังระเบิดเก่า จี้ไทยทำตามข้อตกลงหยุดยิง

สำนักข่าว พนมเปญ โพสต์ รายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชา ออกแถลงการณ์ในวันอังคารที่ 12 ส.ค. 2568 ปฏิเสธข้อกล่าวหาของฝ่ายไทยที่ระบุว่า ทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ใกล้กับปราสาทตาเมือนธม จนทำให้ทหารไทยไปเหยียบจนระเบิดได้รับบาดเจ็บอีก 1 นายเมื่อเช้าวันนี้

พนมเปญ โพสต์ อ้างรายงานของสื่อไทยว่า ทหารนายนี้เหยียบทุ่นระเบิดระหว่างลาดตระเวนใกล้ปราสาทตาเมือนธม เพื่อสังเกตการณ์และรักษาความปลอดภัย ก่อนจะเหยียบทุ่นระเบิดจนสูญเสียขาซ้าย โดยกองทัพไทยเชื่อว่าทุ่นระเบิดดังกล่าวคือรุ่น PMN-2 และกล่าวหากัมพูชาว่าเป็นผู้นำมาวาง

นางมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า กัมพูชาขอปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงต่อข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริงอันเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้

“กัมพูชามีจุดยืนมั่นคงว่า จะไม่ใช้หรือวางทุ่นระเบิดลูกใหม่ กัมพูชาเป็นภาคีที่น่าภาคภูมิในอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเราได้ให้สัตยาบันในปี 2542 และได้รับการยอมรับจากประชาคมนานาชาติเรื่องความพยายามในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ทั้งในและต่างประเทศ” โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชากล่าว

เธอย้ำด้วยว่า จนถึงตอนนี้ ไม่มีการสืบสวนอย่างเป็นทางการและโปร่งใสเกิดขึ้นเพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้เลย

“ยิ่งกว่านั้น กัมพูชาย้ำเตือนประเทศไทยหลายครั้งแล้วว่าพื้นที่แถบนี้ยังมีระเบิดที่หลงเหลือมาจากยุคสงคราม ซึ่งในแง่นี้ ทุกฝ่ายควรงดเว้นจากการมีข้อสรุปใดๆ ต่อสังคมก่อนจะค้นพบความจริง เพื่อความเป็นธรรมและหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดใดๆ ที่อาจเพิ่มความตึงเครียด หรือยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้า”

...

นางโสเจียตายังเรียกร้องให้ฝ่ายไทยเคารพข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุเมื่อวันที่ 28 ก.ค. และหลักการ 13 ข้อที่เห็นชอบร่วมกับระหว่างการประชุมวาระวิสามัญของคณะกรรมการชายแดนร่วม (GBC) เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ซึ่งมีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนร่วมสังเกตการณ์ เช่นเดียวกับ สหรัฐฯ และจีน

กัมพูชาขอเรียกร้องให้ไทยเคารพข้อตกลงและเงื่อนไขทั้งหมดที่ระบุในข้อตกลงหยุดยิง รวมถึงเจตนารมณ์ของข้อตกลงที่บรรลุระหว่างการประชุม GBC วาระวิสามัญ โดยรายงานการประชุมระบุว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะคงกำลังทหารเอาไว้ในพื้นที่ปัจจุบัน ไม่มีการเคลื่อนย้ายเพิ่มเติมในระหว่างการหยุดยิง ซึ่งเริ่มขึ้นในเวลา 24.00 น. วันที่ 28 ก.ค.

“จะไม่มีการเคลื่อนที่ของกองทัพ รวมถึงการลาดตระเวนเข้าสู่ที่ตั้งของอีกฝ่าย” นางโสเจียตากล่าว


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : phnompenhpost