เด็กทารกเพศหญิงวัยเพียง 1 เดือนในประเทศแกมเบีย เสียชีวิตหลังรับการขลิบอวัยวะเพศหญิง (FGM) ส่งผลให้เกิดกระแสความไม่พอใจเป็นวงกว้าง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 11 ส.ค. 2568 ว่า เด็กทารกเพศหญิงวัย 1 เดือนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในกรุงบันจูล เมืองหลวงของแกมเบียอย่างเร่งด่วน หลังจากเธอมีอาการเลือดออกอย่างรุนแรง แต่ได้รับการประกาศว่าเสียชีวิตแล้วตอนเดินทางถึงโรงพยาบาล ตามการเปิดเผยของตำรวจแกมเบีย
ถึงแม้ว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กทารกรายนี้ แต่คนมากมายกล่าวโทษว่าการขลิบอวัยวะเพศ ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติตามวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อกันมา แต่ทางการแกมเบียประกาศเป็นสิ่งผิดกฎหมายไปแล้ว ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เด็กเสียชีวิต
“วัฒนธรรมไม่ใช่ข้ออ้าง, ประเพณีไม่ใช่โล่ป้องกัน นี่คือความรุนแรง ไม่มีสิ่งอื่นเจือปน ง่ายๆ แค่นั้น” องค์กรเอ็นจีโอ Women In Leadership and Liberation หรือ WILL ระบุในแถลงการณ์
ตำรวจระบุว่า มีผู้หญิง 2 คนถูกจับกุมตัวฐานต้องสงสัยว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของทารกหญิงรายนี้
ด้านอับดูไล ซีเซย์ สมาชิกสภาเขตกอมโบเหนือ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ออกมาเน้นย้ำเรื่องการปกป้องเด็กๆ จากหลักปฏิบัติที่เป็นอันตราย และพรากสุขภาพ, เกียรติ และชีวิตของพวกเขาไป
“การสูญเสียชีวิตของเด็กผู้บริสุทธิ์ในครั้งนี้จะต้องไม่ถูกลืมเลือน ขอให้เหตุการณ์นี้เป็นจุดเปลี่ยนและเป็นช่วงเวลาที่ประเทศของเราได้เริ่มต้นความมุ่งมั่นเพื่อปกป้องสิทธิ์ในการมีชีวิต, ความปลอดภัย และเกียรติของเด็กๆ ทุกคนอีกครั้ง”
ทั้งนี้ แกมเบียทำให้การทำ FGM เป็นสิ่งผิดกฎหมายตั้งแต่ปี 2558 โดยมีทั้งโทษปรับและจำคุกสูงสุด 3 ปี และจำคุกตลอดชีวิตหากเด็กเสียชีวิต
...
แต่มันยังคงเกิดขึ้นในสังคมแกมเบีย โดยเหตุผลส่วนใหญ่ก็เพื่อการยอมรับทางสังคม, ความเชื่อทางศาสนา, การเข้าใจเรื่องสุขอนามัยแบบผิดๆ ว่าเป็นการรักษาพรหมจารีของเด็กหญิงหรือผู้หญิง, ทำให้สามารถแต่งงานได้ และเพิ่มความสุขทางเพศให้ผู้ชาย
แกมเบียติด 10 อันดับแรกของประเทศที่มีการทำ FGM มากที่สุดในโลก โดย 73% ของผู้หญิงและเด็กหญิงอายุตั้งแต่ 15-49 ปี ได้ทำกระบวนการดังกล่าวมาแล้ว และหลายคนทำก่อนอายุ 6 ขวบ
WILL ระบุว่า ชาวแกมเบียเริ่มขลิบอวัยวะเพศให้เด็กหญิงตั้งแต่ยังเป็นทารกมากขึ้น เพราะเชื่อแบบผิดๆ ว่า เด็กจะหายเร็วกว่า นอกจากนั้นยังมีเหตุผลเรื่องกฎหมาย โดยพวกเขาเชื่อว่าการขลิบตั้งแต่เด็กจะทำให้ปิดบังได้ง่ายขึ้น
การบังคับใช้กฎหมายอันหย่อนยานก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การทำ FGM ไม่ลดลง โดยในปี 2566 มีการดำเนินคดีเพียง 2 ครั้งและตัดสินว่ามีความผิดเพียง 1 ครั้ง นอกจากนั้นยังมีความพยายามล็อบบี้ให้รัฐบาลยกเลิกบทลงโทษสำหรับการทำ FGM ด้วย แต่ร่างกฎหมายถูกโหวตคว่ำไปเมื่อปีก่อน
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc