ในช่วงเดือนที่ผ่านมา นักศึกษาและนักเคลื่อนไหวในอินโดนีเซีย ได้นำธงโจรสลัดรูปหัวกะโหลก จากอนิเมะเรื่อง "วันพีซ" มาเป็นสัญลักษณ์ของการประท้วงนโยบายรัฐบาล ก่อนถึงวันชาติอินโดนีเซีย 17 สิงหาคม
ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เกิดปรากฏการณ์ที่ธงโจรสลัดรูปหัวกะโหลกสวมหมวกฟาง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางในอนิเมะชื่อดัง "วัน พีซ" (One Piece) ไปปรากฏตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศอินโดนีเซีย ทั้งตามประตูบ้าน หลังรถยนต์ หรือบนผนัง ธงเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงออกถึงความรักในอนิเมะเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของการประท้วงทางการเมืองต่อต้านรัฐบาลของประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ที่มาจากการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาอีกด้วย
ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีปราโบโวได้เรียกร้องให้ชาวอินโดนีเซียร่วมกันชักธงชาติสีแดง-ขาว เพื่อเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพ หรือวันชาติ ในวันที่ 17 สิงหาคม แต่ชาวอินโดนีเซียจำนวนหนึ่งกลับเลือกที่จะแสดงความไม่พอใจและประท้วงด้วยการชักธงโจรสลัดแทน ซึ่งเป็นการสื่อความหมายว่าพวกเขารักประเทศชาติแต่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาลที่พวกเขาเชื่อว่ามีแนวโน้มที่จะรวมศูนย์อำนาจมากขึ้น
"วัน พีซ" เป็นอนิเมะยอดนิยมที่เผยแพร่ครั้งแรกในปี 1997 และมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นในอินโดนีเซีย เนื้อเรื่องของอนิเมะนี้เล่าถึงกลุ่มโจรสลัดที่ต่อสู้เพื่ออิสรภาพและท้าทายรัฐบาลเผด็จการ ซึ่งสอดคล้องกับความรู้สึกของชาวอินโดนีเซียหลายคน โดย อาลี เมาลานา ชาวเมืองจายาปูราในจังหวัดปาปัว กล่าวว่า "ถึงแม้ประเทศนี้จะมีเอกราชอย่างเป็นทางการ แต่พวกเราหลายคนยังไม่เคยสัมผัสกับอิสรภาพอย่างแท้จริงในชีวิตประจำวัน"
ความไม่พอใจของประชาชนส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีปราโบโวในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ที่กล่าวว่า "จงชักธงชาติสีแดง-ขาวไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน สีแดงคือเลือดที่หลั่งรินเพื่ออิสรภาพ ส่วนสีขาวคือความบริสุทธิ์ของจิตวิญญาณ" คำพูดนี้กระตุ้นให้ เดนดี คริสเตียนโต เจ้าของร้านเสื้อผ้า Wik Wiki ได้รับยอดสั่งซื้อธงโจรสลัดนับพันชิ้นจากทั่วประเทศหลังจากสุนทรพจน์ดังกล่าว
...
อย่างไรก็ตาม การแสดงออกนี้ไม่ได้ได้รับการยอมรับจากทุกคน นายซุฟมี ดัสโก อะหมัด รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นคนสนิทของประธานาธิบดีปราโบโว ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การกระทำนี้ว่าเป็น "ความพยายามที่สมคบคิดกันเพื่อแบ่งแยกชาติ" และเรียกร้องให้ทุกคนร่วมกันต่อต้าน ในขณะที่ ส.ส. อีกคนหนึ่งจากพรรคโกลคาร์ถึงกับกล่าวว่าการกระทำนี้อาจเข้าข่ายการกบฏ
แต่ในทางกลับกัน ประเสทโย ฮาดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรัฐมนตรี กลับออกมาแถลงว่า ประธานาธิบดีปราโบโวไม่ได้คัดค้านการใช้ธงเหล่านี้ในฐานะ "การแสดงออกเชิงสร้างสรรค์" แต่ย้ำว่าไม่ควรใช้ธงดังกล่าวเพื่อท้าทายหรือลดทอนความสำคัญของธงชาติ และห้ามนำมาวางเคียงข้างกันในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง อย่างไรก็ตามกฎหมายของอินโดนีเซียไม่ได้มีข้อห้ามเกี่ยวกับการแสดงธงสมมติ แต่ระบุไว้ว่าหากชักธงชาติร่วมกับธงอื่นใด ธงชาติจะต้องถูกชักขึ้นสูงกว่าเสมอ
นอกจากนี้ ยังมีนักการเมืองบางคนยอมรับการแสดงออกนี้ในฐานะสัญลักษณ์ทางการเมืองที่สะท้อนถึงความคาดหวังของประชาชน โดยบิมา อาร์ยา ซูกีอาร์โต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า "การแสดงออกในลักษณะนี้เป็นปรากฏการณ์ปกติในระบอบประชาธิปไตย" ในขณะที่ เดดดี เยฟรี ซิตอรัส จากพรรคประชาธิปไตยแห่งการต่อสู้ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน มองว่า "การกระทำเชิงสัญลักษณ์ในลักษณะนี้ดีกว่าการประท้วงตามท้องถนนที่อาจบานปลายไปสู่ความรุนแรง"
ดอมินิก นิกกี ฟาห์รีซาล นักวิจัยจากศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติ กล่าวว่า การที่วันพีซ ได้รับความนิยมในทุกช่วงวัยของชาวอินโดนีเซีย ทำให้ธงโจรสลัดกลายเป็นวิธี "สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองในรูปแบบที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์" สำหรับประชาชนบางคน การตอบสนองของรัฐบาลที่แตกต่างกันไปต่อธงโจรสลัดนี้ยิ่งเน้นย้ำถึงพลังของสัญลักษณ์ดังกล่าว
ในบทความของ ฟาร์ฮาน ริซกุลเลาะห์ บนแพลตฟอร์ม Medium ได้กล่าวสรุปไว้ว่า "การปฏิบัติต่อธงการ์ตูนเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ เป็นการยืนยันถึงสมมติฐานของการประท้วงทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ พวกเขาได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ความฝันของมังกี้ ดี. ลูฟี่ ซึ่งเป็นความปรารถนาที่เรียบง่ายและแน่วแน่ที่จะมีอิสระ คือสิ่งเดียวที่พวกเขากลัวอย่างแท้จริง"
ที่มา BBC