รายงานการสืบสวนชี้ว่า การออกแบบที่ไม่เพียงพอคือปัจจัยหลักที่ทำให้ยานดำน้ำ ไททัน ยุบตัวใต้ทะเล ผู้โดยสารเสียชีวิตยกลำ 5 ศพเมื่อปี 2566

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะกรรมการสืบสวนของหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ มีข้อสรุปในวันอังคารที่ 5 ส.ค. 2568 ว่า การออกแบบที่ไม่เพียงพอของยานดำน้ำ "ไททัน" คือปัจจัยหลักที่ทำให้ยานดำน้ำลำนี้ระเบิดแบบยุบตัวที่ใต้มหาสมุทรแอตแลนติก เมื่อปี 2566 ผู้โดยสาร 5 คนบนยานเสียชีวิตทั้งหมด

ยานดำน้ำไททันขาดการติดต่อกับเรือสนับสนุนระหว่างการพานักท่องเที่ยวลงไปสำรวจซากเรือไททานิก ซึ่งจมลงสู่ก้นทะเลในปี 2455 จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,500 ศพ ก่อนที่ซากเรือจะถูกพบในอีก 4 วันต่อมา ที่ก้นทะเลห่างจากซากหัวเรือไททานิกราว 488 ม.

หลังจากการสืบสวนเป็นเวลา 2 ปี หน่วยยามฝั่งของสหรัฐฯ ก็เผยแพร่รายงานการสืบสวนความยาว 300 หน้าออกมาแล้ว โดยนายเจสัน นอยเบาเออร์ ประธานหน่วยยามฝั่งกล่าวว่า เหตุระเบิดของยานไททันเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันได้

"มีความจำเป็นที่จะต้องกำกับดูแลให้เข้มงวดขึ้น และมีแนวทางที่ชัดเจนสำหรับผู้ประกอบการที่สำรวจแนวคิดใหม่ๆ นอกเหนือไปจากกรอบการกำกับดูแลที่มีอยู่" นายนอยเบาเออร์ระบุในแถลงการณ์

คณะกรรมการสืบสวนมีข้อสรุปว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้คือ กระบวนการออกแบบ, การตรวจสอบ, การบำรุงรักษา และรับรองยานดำน้ำไททันของบริษัท โอเชียนเกต (OceanGate) นั้น ไม่เพียงพอ

นอกจากนั้น วัฒนธรรมองค์กรที่เป็นพิษในบริษัทโอเชียนเกต, กรอบการกำกับดูแลยานดำน้ำหรือเรือรูปแบบใหม่ๆ ที่ไม่เพียงพอ และกระบวนการแจ้งเบาะแสที่ไม่มีประสิทธิภาพ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้เช่นกัน

รายงานเสริมอีกว่า หลายปีก่อนจะเกิดเหตุการณ์นี้ โอเชียนเกตใช้ประโยชน์จากการข่มขู่, การสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ และชื่อเสียงที่ดีของบริษัท ในการหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล

...

คณะกรรมการพบว่า โอเชียนเกตล้มเหลวในการสืบสวนและแก้ปัญหาความผิดปกติของตัวเรือที่ตรวจพบหลังจากการสำรวจซากเรือไททานิกในปี 2565 คณะกรรมการบอกอีกว่า ข้อมูลจากระบบสังเกตการณ์ตามเวลาจริงและยานไททัน ควรได้รับการวิเคราะห์และดำเนินการแก้ไขระหว่างการสำรวจครั้งนั้น

คณะกรรมการยังวิพากษ์วิจารณ์โอเชียนเกต ที่ล้มเหลวในการเก็บรักษายานไททันอย่างเหมาะสม ก่อนการสำรวจในปี 2566 ด้วย


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : cna