ภูเขาไฟคราเชนินนิคอฟ บนคาบสมุทรคัมชัตกาของรัสเซีย ใกล้กับจุดเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.8 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เริ่มปะทุขึ้นเป็นครั้งแรก หลังสงบมานานกว่า 450 ปี
หน่วยงานฉุกเฉินแห่งชาติของรัสเซียแถลงเมื่อวันนี้ (3 ส.ค.) ว่า ภูเขาไฟในภูมิภาคคัมชัตคาทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ได้ปะทุขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 450 ปี เพียงไม่กี่วันหลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.8 ซึ่งนับว่ารุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
ภาพที่เผยแพร่โดยสื่อของรัฐบาลรัสเซียแสดงให้เห็นกลุ่มควันเถ้าถ่านขนาดใหญ่พวยพุ่งออกมาจากภูเขาไฟคราเชนินนิคอฟ ซึ่งปะทุครั้งล่าสุดในปี ค.ศ. 1550 ตามข้อมูลของโครงการภูเขาไฟโลกของสถาบันสมิธโซเนียน
กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของคัมชัตคาระบุในโพสต์บนเทเลแกรมว่า กลุ่มควันดังกล่าวมีความสูง 6,000 เมตร
กระทรวงฯ กล่าวว่า "กลุ่มควันกำลังแผ่ขยายไปทางทิศตะวันออกจากภูเขาไฟไปยังมหาสมุทรแปซิฟิก ไม่มีพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่ตามเส้นทาง และไม่มีการบันทึกการตกของเถ้าถ่านในพื้นที่ที่มีผู้อยู่อาศัย" และเสริมว่า ภูเขาไฟลูกนี้ได้รับการจัดระดับรหัสอันตรายทางการบินเป็น "สีส้ม" ซึ่งหมายความว่าเที่ยวบินในพื้นที่อาจต้องหยุดชะงัก
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากภูเขาไฟคลูเชฟสคอย ซึ่งเป็นภูเขาไฟอีกลูกหนึ่งในภูมิภาคนี้ และเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่มากที่สุดในยุโรปและเอเชีย ได้ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา
การปะทุของภูเขาไฟคลูเชฟสคอยเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อย โดยเกิดขึ้นอย่างน้อย 18 ครั้งเกิดขึ้นนับตั้งแต่ปี 2000 ตามข้อมูลของโครงการภูเขาไฟโลก
การปะทุทั้งสองครั้งล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งที่เคยบันทึกไว้ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ก.ค. ทำให้เกิดการเตือนภัยสึนามิและการอพยพผู้คนหลายล้านคนจากพื้นที่ชายฝั่งตั้งแต่ญี่ปุ่น รัฐฮาวาย ไปจนถึงเอกวาดอร์
...
ความเสียหายที่ร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นในรัสเซีย ซึ่งเกิดคลื่นสึนามิซัดเข้าใส่ท่าเรือเมืองเซเวโร-คูริลสค์ และทำให้โรงงานประมงจมอยู่ใต้น้ำ
แผ่นดินไหวขนาด 8.8 เกิดขึ้นนอกชายฝั่งเมืองเปโตรปัฟลอฟสค์ บนคาบสมุทรคัมชัตกาของรัสเซีย และถือเป็นแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่แผ่นดินไหวขนาด 9.1 นอกชายฝั่งญี่ปุ่นเมื่อปี 2011 ซึ่งก่อให้เกิดคลื่นสึนามิคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 15,000 ราย.