นักร้องชื่อดัง จัสติน ทิมเบอร์เลค เปิดเผยว่าเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคลายม์ โรคติดเชื้อแบคทีเรียจากการถูกเห็บกัด ซึ่งส่งผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ ถึงขั้นเคยคิดยุติทัวร์คอนเสิร์ต

จัสติน ทิมเบอร์เลค อดีตสมาชิกวง NSYNC และนักร้องเจ้าของเพลงฮิต SexyBack เปิดเผยผ่านโพสต์บนอินสตาแกรม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคมว่า เขาป่วยเป็นโรคลายม์ (Lyme) โดยกล่าวว่าโรคนี้ "สามารถบั่นทอนทั้งร่างกายและจิตใจได้อย่างต่อเนื่องและรุนแรง"

โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่หลังจบทัวร์ Forget Tomorrow ซึ่งปิดท้ายที่ประเทศตุรกีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดย ทิมเบอร์เลค ยอมรับว่า เขาเคยคิดจะยุติการทัวร์หลังได้รับการวินิจฉัยโรคดังกล่าว แต่ตัดสินใจเดินหน้าต่อ เพราะ "ความสุขจากการได้แสดงมันมีค่ามากกว่าความเครียดชั่วคราวที่ร่างกายต้องเผชิญ ผมดีใจที่ไม่ยอมแพ้"

ทิมเบอร์เลค ยังเขียนในโพสต์ว่า "ผมไม่แน่ใจว่าผมจะได้กลับมายืนบนเวทีอีกเมื่อไร แต่ผมจะไม่มีวันลืมทัวร์ครั้งนี้ และทุกครั้งที่ผ่านมา มันเป็นประสบการณ์ที่เหมือนตำนานสำหรับผมจริงๆ"

ตลอดทัวร์ดังกล่าว ทิมเบอร์เลค ต้องยกเลิกและเลื่อนโชว์หลายรอบ โดยให้เหตุผลด้านปัญหาสุขภาพ รวมถึงอาการหลอดลมอักเสบและกล่องเสียงอักเสบ เขาเลื่อนคอนเสิร์ตในสหรัฐ 6 รอบจากเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ไปเป็นเดือนกุมภาพันธ์ และสุดท้ายก็ต้องยกเลิกโชว์สุดท้ายในรัฐโอไฮโอ เนื่องจากเป็นไข้หวัดใหญ่

ขณะที่ตัวแทนของ ทิมเบอร์เลค ยังไม่ได้ตอบกลับต่อคำขอสัมภาษณ์จากสำนักข่าวเอพี

ก่อนหน้านี้ในปี 2024 ทิมเบอร์เลค เคยรับสารภาพว่าขับรถขณะมึนเมาในเมืองแฮมป์ตัน รัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงในคดี เขาได้ร่วมทำวิดีโอให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนน เพื่อเตือนผู้ขับขี่ไม่ให้ดื่มแล้วขับ

...

ท้ายโพสต์ทิมเบอร์เลค กล่าวขอบคุณภรรยา เจสสิก้า บีล และลูกชายทั้งสองคน ไซลาส กับ ฟิเนียส โดยเขียนว่า

"ไม่มีสิ่งใดทรงพลังไปกว่าความรักที่ไม่มีเงื่อนไขจากพวกคุณ พวกคุณคือหัวใจและบ้านของผม ผมกำลังจะกลับบ้านแล้ว"


ทำความรู้จักกับโรค ลายม์

โรคลายม์เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรียโดย เห็บขาดำ หรือที่เรียกว่า เห็บกวาง ซึ่งตัวเล็กมาก บางครั้งเล็กเท่าหัวเข็มหมุด

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า ในแต่ละปีมีชาวอเมริกันราว 476,000 คนที่ได้รับการรักษาโรคลายม์ 

สำหรับอาการเริ่มต้นของโรคลายม์ ได้แก่ อ่อนเพลีย มีไข้ ปวดข้อ และในหลายกรณีจะมี ผื่นแดงคล้ายเป้ายิง ปรากฏที่บริเวณถูกกัด แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีผื่นดังกล่าว

หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาด้วย ยาปฏิชีวนะตั้งแต่ระยะแรก มักจะรักษาได้ผลดี แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจส่งผลให้เกิด ข้ออักเสบรุนแรง หรือปัญหาทางหัวใจและระบบประสาท ได้ และในบางราย อาการอาจยังคงอยู่แม้จะได้รับการรักษาแล้ว.


ที่มา : channelnewsasia

คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ จัสติน ทิมเบอร์เลค