เกิดข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์ของจีนว่า พระซื่อหย่งซิ่น เจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน ถูกนำตัวไปสอบสวน โดยพระซื่อหย่งซิ่น เป็นผู้นำการดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของวัดมาเป็นเวลานาน ซึ่งว่ากันวัดว่ามีรายได้ต่อปีเกินกว่า 200 ล้านหยวน หรือกว่า 900 ล้านบาท
สื่อออนไลน์ "เหมยไพ่" เป็นรายแรกที่อ้างแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้หลายแหล่งยืนยันเรื่องนี้ จากนั้น "จูย่ว์ซู่ซิง" ก็เผยแพร่บทความ โดยอ้างผู้ใกล้ชิดยืนยันว่าซื่อหย่งซิ่นถูกนำตัวไปแล้ว และเน้นย้ำเป็นพิเศษว่า "ครั้งนี้อาจไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเงิน" ซึ่งทำให้ลักษณะของเหตุการณ์ซับซ้อนยิ่งขึ้น ข่าวลือนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว กลายเป็นประเด็นร้อนทางสังคมที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในวันที่ 26 กรกฎาคม
สื่อต่างๆ เช่น Phoenix Weekly ได้ติดต่อสอบถามไปยังวัดเส้าหลิน ครูเจิ้ง ผู้รับผิดชอบฝ่ายประสานงานภายนอกของวัดเส้าหลิน กล่าวว่า ช่วงนี้ไม่เห็นพระซื่อหย่งซิ่น และขอให้ผู้สื่อข่าวรอฟังข่าวจากทางการ เมื่อสื่อมวลชนสอบถามพระภิกษุในวัดเส้าหลิน บางรูปกล่าวว่าไม่ทราบสถานการณ์ บางรูปกล่าวว่า "รอดูข้อมูลจากทางการ" สื่อจีนแผ่นดินใหญ่พยายามโทรศัพท์ไปยังแผนกต้อนรับของวัดเส้าหลินแต่สายไม่ว่าง และพระภิกษุบางรูปเลือกที่จะวางสายเมื่อรับโทรศัพท์สอบถาม ซึ่งคำตอบเหล่านี้ยิ่งเพิ่มความสงสัยจากภายนอก
Jiangnan Metropolis Daily ก็รายงานข่าวการนำตัวพระซื่อหย่งซิ่นไปสอบสวนเช่นกัน โดยบัญชีโซเชียลมีเดียส่วนตัวของพระซื่อหย่งซิ่น หยุดอยู่ที่เวลา 06:58 น. ของเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม
โดยเจ้าอาวาส "เซเลบ" ผู้โพสต์ข้อความเฉลี่ยวันละ 1.5 ครั้ง และมีผู้ติดตาม 870,000 คน ได้ตกเป็นเป้าของกระแสวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง โดยมีแหล่งข่าวหลายแหล่งยืนยันตรงกันว่า พระซื่อหย่งซิ่นถูกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตัวไปสอบสวนแล้ว สื่อดังกล่าวยังระบุว่า เมื่อโทรศัพท์สอบถามครูเจิ้ง ผู้รับผิดชอบฝ่ายประสานงานภายนอกของวัดเส้าหลิน สายถูกตัดทันที
...
พระซื่อหย่งซิ่น ในฐานะเจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน ได้นำการดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของวัดมาเป็นเวลานาน ซึ่งว่ากันว่ามีรายได้ต่อปีเกินกว่า 200 ล้านหยวน พุทธพาณิชย์ที่มากเกินไปนี้เป็นจุดสนใจของการตั้งคำถามจากสาธารณชนมาโดยตลอด ย้อนกลับไปในปี 2015 พระซื่อหย่งซิ่นเคยถูกกล่าวหาว่ารับสินบนจำนวนมหาศาล และมีพฤติกรรมส่วนตัวที่ไม่เหมาะสม แม้ว่าผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการในปี 2017 จะสรุปว่า "หลักฐานไม่เพียงพอ" แต่ข่าวลือเกี่ยวกับทรัพย์สินในต่างประเทศและความสัมพันธ์ส่วนตัวก็ไม่เคยหยุดลง ทำให้พระซื่อหย่งซิ่นยังคงอยู่ในวังวนของการวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด
ปัจจุบัน พระซื่อหย่งซิ่นดำรงตำแหน่งรองประธานสมาคมพุทธศาสนาจีน และประธานสมาคมพุทธศาสนาเหอหนาน และเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนมาหลายสมัย ภายใต้ระบบปัจจุบัน ผู้บริหารวัดอย่างพระซื่อหย่งซิ่นมักถูกเรียกว่า "พระการเมือง" ซึ่งได้รับสถานะเทียบเท่าข้าราชการในระบบของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และปัญหาส่วนตัวของพวกเขามักจะส่งผลกระทบในวงกว้างมากขึ้น ฉือหย่งซิ่นเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สร้างอาณาจักรธุรกิจของวัดเส้าหลิน โดยได้ก่อตั้งบริษัทเหอหนานเส้าหลินอุตสาหกรรมพัฒนา จำกัด และถือหุ้นควบคุมบริษัทเหอหนานเส้าหลินการจัดการทรัพย์สินไร้รูป โดยครั้งหนึ่งเคยควบคุมกิจการกว่าสิบแห่งที่ครอบคลุมด้านวัฒนธรรม อาหาร ยา และเครื่องแต่งกาย
แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พระซื่อหย่งซิ่นได้ยกเลิกการจดทะเบียนบริษัทเส้าหลินอุตสาหกรรมพัฒนาและถอนตัวจากการบริหารทรัพย์สินไร้รูปของเส้าหลินแล้ว แต่ข่าวลือเรื่องการทุจริต พฤติกรรมส่วนตัวที่ไม่เหมาะสม และการครอบครองทรัพย์สินในต่างประเทศยังคงแพร่หลายในอินเทอร์เน็ต ทำให้เขาถูกเรียกว่า "ซีอีโอในผ้ากาสาวพัสตร์"
ในเดือนมีนาคม 2024 มีข่าวลือทางออนไลน์ว่า ซื่อเจิ้งเอิน บุตรชายของพระซื่อหย่งซิ่น จะสืบทอดตำแหน่งและเป็นตัวแทนของวงการพุทธศาสนา แต่ต่อมาวัดเส้าหลินได้ออกมายืนยันว่าไม่เป็นความจริง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วงการศาสนาของจีนมีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เช่น กรณีพระอาจารย์ฉือเสวียเฉิง เจ้าอาวาสวัดหลงฉวน กรุงปักกิ่ง ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศ และพระซื่อฉวนเจิน แห่งวัดเสวียนจ้าง เมืองหนานจิง ที่ตกเป็นประเด็นถกเถียงเรื่อง "กลุ่มเพื่อนของเจ้าหน้าที่" ซึ่งปัญหาการทุจริตและการประพฤติผิดทางเพศในวงการศาสนาของจีนได้รับความสนใจจากสังคมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง.
ที่มา The Epoch Times