บันทึกเสียงห้องนักบิน "แอร์ อินเดีย" เผยกัปตันอาจเป็นคนตัดน้ำมันเครื่องยนต์ โบอิ้ง 787 เอง ก่อนเครื่องตกดับสลด 260 ศพ เมื่อเดือนที่แล้ว ทางการเร่งสอบสวน ปมผิดพลาดมนุษย์หรือระบบ

วันที่ 16 กรกฎาคม 2568 เว็บไซต์ข่าว The Wall Street Journal รายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดในหน่วยงานการสอบสวนของสหรัฐฯ ว่าเสียงบันทึกในห้องนักบินของเที่ยวบินแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI171 ซึ่งประสบเหตุตกในเมืองอาเมดาบัด ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา บ่งชี้ว่า กัปตันอาจเป็นผู้สั่งตัดระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังเครื่องยนต์ทั้งสอง หลังจากเครื่องเพิ่งทะยานขึ้นจากรันเวย์ได้เพียงไม่นาน

โดยอุบัติเหตุสุดสะเทือนใจครั้งนี้ คร่าชีวิตผู้โดยสาร 241 ศพ จากจำนวนผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 242 คนบนเครื่อง และมีผู้เสียชีวิตบนพื้นดินอีก 19 ศพ รวมยอดเสียชีวิตทั้งสิ้น 260 ศพ ขณะเครื่องบินกำลังมุ่งหน้าไปยังสนามบินแกตวิก ในกรุงลอนดอน ของอังกฤษ แต่กลับร่วงลงใส่พื้นที่อยู่อาศัยไม่ไกลจากสนามบิน และกับใกล้วิทยาลัยการแพทย์ BJ Medical College

ก่อนหน้านี้ สำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของอินเดีย (AAIB) เปิดเผยรายงานการสอบสวนเบื้องต้น ที่เผยแพร่เมื่อ 12 กรกฎาคม ระบุว่า สวิตช์ควบคุมน้ำมันของเครื่องยนต์ทั้งสองได้ถูกปรับจากตำแหน่ง “RUN” เป็น “CUTOFF” ภายในเวลาไม่ถึงวินาที ระหว่างที่เครื่องกำลังไต่ระดับหลังเทคออฟ ซึ่งตรงกับเสียงสนทนาในห้องนักบินที่ นักบินผู้ช่วยตั้งคำถามกับกัปตันว่า เหตุใดจึงตัดน้ำมันเครื่องยนต์ แต่กัปตันตอบว่า “ไม่ได้ทำ”

กัปตันวัย 56 ปีมีประสบการณ์บินมากกว่า 15,600 ชั่วโมง โดยในนั้นบินเครื่องโบอิ้ง 787 มาแล้วกว่า 8,500 ชั่วโมง ส่วนนักบินผู้ช่วยวัย 32 ปี มีประสบการณ์บินรวม 3,400 ชั่วโมง โดยแหล่งข่าวระบุว่า ในช่วงเวลาเร่งด่วนเช่นนั้น นักบินผู้ช่วยคงไม่มีเวลาหรือเหตุผลในการตัดน้ำมันเครื่องเอง

...

ข้อมูลจากกล่องดำยังแสดงว่า ระบบจ่ายน้ำมันถูกเปิดกลับเป็น “RUN” ภายใน 10 วินาที ซึ่งทำให้ระบบอัตโนมัติของ Boeing พยายามรีสตาร์ทเครื่องยนต์ หนึ่งในเครื่องมีสัญญาณฟื้นตัว แต่ไม่ทันการณ์ เครื่องตกลงสู่พื้นดินในเวลาต่อมา โดยภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็น ใบพัดฉุกเฉิน (Ram Air Turbine หรือ RAT) กางออกทันทีหลังเครื่องขึ้น ซึ่งยืนยันว่าระบบไฟฟ้าและไฮดรอลิกหยุดทำงานโดยสิ้นเชิง

ขณะที่ นายแคมป์เบลล์ วิลสัน ซีอีโอของสายการบินแอร์อินเดีย ระบุในบันทึกภายในว่า การสอบสวนเบื้องต้นไม่พบปัญหาด้านเครื่องยนต์หรือการซ่อมบำรุงแต่อย่างใด ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ และยุโรปยังคงยืนยันความมั่นใจในระบบล็อกสวิตช์น้ำมันของโบอิ้ง

อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับสมบูรณ์คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 12 เดือน โดยอุบัติเหตุครั้งนี้จุดกระแสเรียกร้องอีกครั้งให้มีการติดตั้งกล้องวิดีโอในห้องนักบิน เพื่อเพิ่มหลักฐานสำคัญในกรณีเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ในอนาคต.