จีนเผย ตัวเลขจีดีพีครึ่งแรกของปีนี้ ขยายตัว 5.3% หลังเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจมหภาคเชิงรุกมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องแม้เผชิญแรงกดดัน  

วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน แถลงว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ของจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบปีต่อปี สูงถึงราว 66.05 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ  299 ล้านล้านบาท ในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 ขณะที่จีดีพีในช่วงไตรมาสที่ 2 เดือนเมษายน-มิถุนายน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบปีต่อปี

นายเซิ่ง ไหล อวิ้น รองหัวหน้าสำนักงานฯ แถลงว่าจีนได้เร่งดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคเชิงรุกมากยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ต้นปี 2568 ส่งผลให้เศรษฐกิจก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องแม้เผชิญแรงกดดัน โดยตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญหลายตัวมีผลลัพธ์ดีกว่าที่คาดไว้

ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2568 โดยภาคการผลิตอุปกรณ์และการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะที่ตลาดผู้บริโภครักษาแนวโน้มขาขึ้น โดยยอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบปีต่อปี เร็วกว่าการเติบโตในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม อยู่ 0.4 จุด

ขณะเดียวกันการลงทุนสินทรัพย์ถาวรยังคงขยายตัวในช่วงครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยเฉพาะการลงทุนภาคการผลิตที่เติบโตอย่างโดดเด่น ส่วนตลาดแรงงานโดยรวมมีเสถียรภาพ โดยอัตราการว่างงานในเมืองกลุ่มสำรวจเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 5.2 ในช่วงครึ่งปีแรก ลดลง 0.1 จุดเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก

นอกจากนี้ รายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงต่อหัวของจีนในช่วงครึ่งปีแรก อยู่ที่ 21,840 หยวน หรือประมาณ  99,000 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบปีต่อปีในแง่ของมูลค่าที่แท้จริง และเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 หลังหักปัจจัยด้านราคาแล้ว

...

โดยทางการจีนระบุว่า ผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกมีแนวโน้มเชิงบวก และก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้คือความสำเร็จที่ได้มาอย่างยากลำบาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาสถานการณ์ระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงฉับพลัน และแรงกดดันจากภายนอกที่เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาสสอง.