อิสราเอลโจมตีทางอากาศทำลายรถถังของกองทัพซีเรียในเมืองทางใต้ หลังกองทัพฝ่ายรัฐบาลปะทะกับกองกำลังชาวดรูซ จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทัพอิสราเอลเปิดเผยในวันจันทร์ที่ 14 ก.ค. 2568 ว่า พวกเขาโจมตีทางอากาศเข้าใส่รถถังของกองทัพรัฐบาลในเมืองสเวดา ทางตอนใต้ของซีเรีย ซึ่งเพิ่งเกิดเหตุกองทัพรัฐบาลซีเรียกับกองกำลังชนเผ่าเบดูอิน (Bedouin) ปะทะกับกลุ่มติดอาวุธชาวดรูซ (Druze) เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

การปะทะกันดังกล่าวเริ่มต้นจากการต่อสู้กันระหว่างกลุ่มติดอาวุธชาวดรูซกับกองกำลังชาวเบดูอิน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 2 วันหลังจากพ่อค้าชาวดรูซถูกลักพาตัวไปจากถนนในกรุงดามัสกัส ก่อนที่ในวันจันทร์ (14 ก.ค.) รัฐบาลซีเรียส่งทหารเข้าไปเพื่อควบคุมสถานการณ์ และเกิดการปะทะกับกองกำลังชาวดรูซอีก

กระทรวงมหาดไทยของซีเรียระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ศพและบาดเจ็บอีกเกือบ 100 คนในการปะทะกันดังกล่าว แต่องค์กรสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (SOHR) อ้างว่า มีผู้เสียชีวิตในการปะทะอย่างน้อย 89 ศพ รวมถึงเด็ก 2 คน, ผู้หญิง 2 คน และสมาชิกกองกำลังความมั่นคงอีก 14 นาย

ทั้งนี้ คาดกันว่าการโจมตีครั้งล่าสุดของอิสราเอลเป็นการทำเพื่อสนับสนุนชาวดรูซ ซึ่งทั่วโลกมีอยู่ประมาณ 1 ล้านคน และกว่าครึ่งอยู่ในซีเรีย ส่วนที่เหลือกระจายอยู่ในเลบานอนและอิสราเอล

ในอิสราเอล ชาวดรูซถูกมองว่าเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีความภักดี และมักเข้ารับใช้ในกองทัพอิสราเอล โดยในอดีต อิสราเอลก็เคยเข้าแทรกแซงในซีเรียเพื่อปกป้องชาวดรูซมาแล้ว ถึงแม้ว่าชาวดรูซจำนวนมากในซีเรียจะไม่ต้องการให้อิสราเอลเข้าแทรกแซงในนามของพวกเขาก็ตาม

กระทรวงต่างประเทศของซีเรียออกมาเรียกร้องทุกประเทศและองค์กร ให้เคารพอำนาจของสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย และงดเว้นจากการสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนใดๆ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ชาวซีเรียหยุดพฤติกรรมความรุนแรง, สละทิ้งอาวุธผิดกฎหมาย และขัดขวางผู้ที่พยายามยุยงสร้างความแตกแยก

...


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : apnews