สถานที่ทรมานและประหารชีวิต 3 แห่งของกัมพูชา ที่เขมรแดงใช้กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เมื่อ 50 ปีก่อน ได้รับการขึ้นทะเบียนในรายชื่อมรดกโลกขององค์การยูเนสโก

กลุ่มลัทธิเหมาหัวรุนแรงนำโดยพลพต ได้กำหนดปฏิทินขึ้นใหม่เริ่มต้น "ปีศูนย์" ในวันที่ 17 เม.ย. 1975 กวาดต้อนผู้คนออกจากเมืองเพื่อสร้างรัฐเกษตรกรรมบริสุทธิ์ที่ไร้ชนชั้น การเมือง หรือทุน ประชาชนราว 2 ล้านคนเสียชีวิตจากความอดอยาก บังคับใช้แรงงาน การทรมาน หรือถูกสังหารหมู่ระหว่างปี 1975-1979
สถานที่ในกัมพูชาที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ประกอบด้วยเรือนจำ 2 แห่ง และทุ่งสังหาร ที่ใช้ประหารชีวิตผู้คนหลายพันคน

ยุก ชาง ผู้รอดชีวิตจากทุ่งสังหารและผู้อำนวยการศูนย์เอกสารแห่งกัมพูชา ที่ทำการวิจัยเกี่ยวกับความโหดร้ายของเขมรแดง กล่าวว่า "นี่คือภูมิทัศน์แห่งความทรงจำร่วมกันของเราในกัมพูชา สิ่งนี้จะช่วยให้การสอนประวัติศาสตร์เขมรแดงมีประสิทธิภาพและตรงประเด็นมากขึ้น 

สถานที่ 2 แห่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนซึ่งตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญ ประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง และศูนย์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เจืองเอก

...

ตวลสเลงเคยเป็นโรงเรียนมัธยมปลายที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นเรือนจำที่รู้จักในชื่อ เอส-21 ที่มีผู้ถูกคุมขังและถูกทรมานราว 15,000 คน ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่สำหรับการรำลึกและให้ความรู้ โดยจัดแสดงภาพถ่ายขาวดำของเหยื่อจำนวนมากและอุปกรณ์ที่ใช้งานโดยผู้ทรมานเขมรแดงเก็บรักษาไว้

เจืองเอก อดีตสุสานชาวจีน ถูกใช้เป็นทุ่งสังหารที่ผู้ถูกคุมขังจากเรือนจำ เอส-21 ถูกประหารชีวิต
ศพกว่า 6,000 ศพถูกขุดขึ้นมาจากหลุมศพหมู่กว่า 100 หลุมในช่วงต้นทศวรรษ 1980 ตามเอกสารของรัฐบาลกัมพูชาที่ยื่นต่อยูเนสโก
ทุกๆ ปีผู้คนจำนวนมากจะร่วมกันสวดมนต์รำลึกหน้าอนุสรณ์สถานซึ่งจัดแสดงกะโหลกศีรษะของเหยื่อ และชมการแสดงของนักศึกษาที่จำลองฉากอาชญากรรมนองเลือดของเขมรแดง
เรือนจำอีกแห่งหนึ่งที่รู้จักในชื่อ เอ็ม-13 ตั้งอยู่ในพื้นที่ชนบท ใน จ.กำปงชนัง เป็นหนึ่งในเรือนจำสำคัญที่สุดในยุคเขมรแดงช่วงแรก แต่ปัจจุบันเป็นเพียงพื้นที่รกร้าง

เอกสารของกัมพูชาที่ยื่นต่อยูเนสโกระบุว่า เจ้าหน้าที่เขมรแดงคิดค้นและทดสอบวิธีการสอบสวน การทรมาน และการสังหารหลากหลายรูปแบบที่นั่น และให้นักโทษอยู่ในหลุม ซึ่งปัจจุบันยังคงมองเห็นหลุมได้
ศาลพิเศษที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติได้ตัดสินจำคุกบุคคลสำคัญของเขมรแดง 3 คน รวมถึง กาง กึ๊ก เอียว หัวหน้าผู้คุมเรือนจำ เอส-21 ก่อนที่ศาลจะหยุดปฏิบัติงานในปี 2022 ส่วนพลพต หรือที่รู้จักในชื่อพี่ชายหมายเลขหนึ่ง เสียชีวิตในปี 1998 ก่อนที่จะถูกนำตัวขึ้นศาล.


ที่มา FRANCE 24

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign