• หน่วยงานของอินเดียเผยแพร่รายงานการสืบสวนเบื้องต้นของเหตุการณ์ เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 787 ของสายการบิน แอร์อินเดีย ตก จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 260 ศพออกมาแล้ว

  • รายงานชี้ว่า การจ่ายเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องถูกตัดในช่วงเวลาสำคัญตอนที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้น ทำให้เครื่องสูญเสียกำลังและตกในที่สุด

  • คำถามที่ตามมาคือ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร สวิตช์ควบคุมเชื้อเพลิงถูกออกแบบมาให้ไม่สามารถใช้งานได้โดยไม่ตั้งใจ แต่การสนทนาระหว่างนักบินทั้งสองกลับชี้ว่า พวกเขาก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนสับสวิตช์


รายงานการสืบสวนอย่างเป็นทางการเพื่อหาสาเหตุการตกของเครื่องบินโดยสารเที่ยวบินที่ AI171 สายการบิน แอร์อินเดีย เมื่อเดือนก่อน ตอบ 1 คำถาม แต่กลับเพิ่มข้อสงสัยอีกหลายอย่าง

AI171 เพิ่งเดินทางออกจากรันเวย์ของสนามบิน แล้วจู่ๆ มันก็สูญเสียแรงยก และตกในย่านชุมชนของเมืองอาห์เมดาบัด ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องเสียชีวิต 241 ศพ รอดชีวิต 1 คน ขณะที่คนบนพื้นเสียชีวิต 19 ศพ บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก

ตอนนี้รายงานการสืบสวนเบื้องต้นของ สำนักงานสืบสวนอุบัติเหตุการบิน (AAIB) ได้เปิดเผยว่า การจ่ายเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องถูกตัดในช่วงเวลาสำคัญตอนที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้น

ข้อมูลจากกล่องดำ ส่วนบันทึกข้อมูลการบิน (FDR) แสดงให้เห็นว่า เครื่องบินเร่งความเร็วไปถึง 180 นอต ก่อนที่สวิตช์เชื้อเพลิงเครื่องยนต์จะเปลี่ยนจาก “ใช้งาน” (RUN) เป็น “ตัดน้ำมัน” (CUT OFF) ตำแหน่งที่ 1 โดยสวิตช์ทั้งสองถูกสับภายในเวลาห่างกันเพียง 1 วินาที หยุดการจ่ายน้ำมันอย่างสิ้นเชิง

รายงานยังระบุด้วยว่า หนึ่งในนักบินถามนักบินอีกคนว่า สับสวิตช์เชื้อเพลิงทำไม? ก่อนที่อีกคนจะตอบว่าเขาไม่ได้ทำ โดยไม่มีการยืนยันชัดเจนว่า ใครเป็นกัปตันและใครเป็นผู้ช่วยนักบิน

ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น สวิตช์เชื้อเพลิงก็ถูกสับให้กลับไปจ่ายเชื้อเพลิง เครื่องยนต์ทั้งสองกลับมาติดอีกครั้ง และเครื่องหนึ่งกำลังอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูการทำงาน แต่มันสายเกินไปที่จะหยุดการร่วงหล่นของ โบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ลำนี้

รายงานฉบับนี้เปิดเผยเหตุผลรากฐานที่ทำให้เครื่องบินลำนี้ตกแล้ว แต่กลับทำให้เกิดข้อสงสัยตามมามากมาย

...

พิธีศพของ ไคลฟ์ คุนเดอร์ ผู้ช่วยนักบิน เมื่อ 19 มิ.ย. 2568
พิธีศพของ ไคลฟ์ คุนเดอร์ ผู้ช่วยนักบิน เมื่อ 19 มิ.ย. 2568


เปิดไทม์ไลน์ก่อนเครื่องตก


ในรายงานเบื้องต้นที่เปิดเผยออกมาเมื่อวันเสาร์ที่ 12 ก.ค. AAIB ได้ให้รายละเอียดเรื่องลำดับเวลาเอาไว้ว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างก่อนเที่ยว AI171

รายงานชี้ว่า ในวันเกิดเหตุเมื่อ 12 มิ.ย. 2565 เพียง 3 วินาทีหลังจากเครื่องบินของแอร์อินเดียลำนี้ขึ้นบิน ปัญหาก็เกิดขึ้นเนื่องจากสวิตช์เชื้อเพลิงถูกสับจากใช้งานเป็นตัดน้ำมัน ไม่ถึงนาทีหลังจากนั้น ก็มีการส่งสัญญาณเมย์เดย์ (เวลาที่แสดงด้านล่างเป็นเวลามาตรฐานกรีนิช GMT ทั้งหมด ซึ่งช้ากว่าเวลาไทย 7 ชั่วโมง)

5.47 น. : โบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ลำที่เกิดเหตุลงจอดที่สนามบินเมืองอาห์เมดาบัดในฐานะเที่ยวบิน AI423 จากกรุงนิวเดลี

7.48.38 น. : เครื่องบินลำเตรียมเดินออกจากท่าจอดเครื่องบินที่ 34 (Bay 34)

7.55.15 น. : เครื่องบินขออนุญาตขับเคลื่อนบนทางขับ (taxiway) จากหอบังคับการบินและได้รับอนุญาต นาทีต่อมาเครื่องบินก็เดินทางจากท่าจอดไปยังรันเวย์ 23 ผ่านทางขับ R4 กลับลำแล้วเข้าคิวรอเทคออฟ

8.02.03 น. : เครื่องบินถูกส่งต่อการควบคุมจากภาคพื้นไปยังหอบังคับการบิน

8.07.33 น. : ได้รับอนุญาตให้ขึ้นบิน

8.07.37 น. : เครื่องบินเริ่มวิ่ง

8.08.39 น. : เครื่องบินลอยตัวขึ้น เซ็นเซอร์ตรวจสถานะกลางอากาศ/พื้นดิน (air/ground sensor) ถูกสับเปลี่ยนเป็นโหมดกลางอากาศ สอดคล้องกับการยกตัวของเครื่อง

8.08.42 น. : เครื่องบินเร่งถึงความเร็วสูงสุดที่ 180 นอต และหลังจากนั้นในทันที สวิตช์เชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ที่ 1 และ 2 ก็ถูกสับจากตำแหน่ง “ใช้งาน” เป็นตำแหน่ง “ตัดน้ำมัน” ในเวลาห่างกันเพียง 1 วินาที

“เครื่องยนต์ N1 และ N2 เริ่มมีกำลังถดถอยจากระดับตอนขึ้นบินเนื่องจากเชื้อเพลิงที่ส่งให้เครื่องยนต์ถูกตัดขาด”

“ในอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบิน มีเสียงหนึ่งในนักบินถามนักบินอีกคนว่า ทำไมถึงตัดน้ำมัน ส่วนนักบินอีกคนตอบว่า เขาไม่ได้ทำ”

“ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ได้มาจากสนามบินแสดงให้เห็นว่า กังหันอากาศแร (RAT) ถูกเปิดใช้งานระหว่างการไต่ระดับทันทีหลังเครื่องขึ้นบิน”

“จากนั้นเครื่องบินก็เริ่มสูญเสียระดับความสูง ก่อนจะผ่านกำแพงกั้นของสนามบิน”

8.08.47 น. : ค่ากำลังของเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องลดต่ำลงกว่าความเร็วรอบเครื่องยนต์ต่ำสุดที่เครื่องยังสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น และปั๊มน้ำของ RAT ก็เริ่มป้อนพลังงานน้ำให้แก่เครื่องยนต์

8.08.52 น. : สวิตช์ของเครื่องยนต์ที่ 1 ถูกสับกลับจาก ตัดน้ำมัน ไปเป็นใช้งาน

8.08.56 น. : สวิตช์ของเครื่องยนต์ที่ 2 ก็ถูกสับกลับจาก ตัดน้ำมัน ไปเป็นใช้งาน

“เมื่อสวิตช์ควบคุมเชื้อเพลิงถูกสับจาก ตัดน้ำมัน ไปเป็น ใช้งาน ขณะที่เครื่องกำลังบินอยู่ ระบบควบคุมเครื่องยนต์แบบเบ็ดเสร็จ (FADEC) ในเครื่องยนต์แต่ละเครื่อง สามารถติดเครื่องและฟื้นฟูการฉีดเชื้อเพลิงกับการจุดระเบิดกลับมาโดยอัตโนมัติ”

“การลดกำลังของเครื่องยนต์ที่ 1 หยุดลง ย้อนกลับ และเริ่มเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู ส่วนเครื่องยนต์ที่ 2 ก็สามารถติดเครื่องได้ แต่ไม่สามารถหยุดการลดลงของกำลังเครื่องยนต์และฉีดเชื้อเพลิงซ้ำๆ เพื่อเพิ่มการเร่งความเร็วและการฟื้นตัว”

8.09.05 น. : หนึ่งในนักบินส่งสัญญาณ “เมย์เดย์ เมย์เดย์ เมย์เดย์”

8.09.11 น. : การบันทึกข้อมูลหยุดลง

8.14.44 น. : รถดับเพลิงของสนามบินออกปฏิบัติการกู้ภัยและดับเพลิง

สวิตช์ควบคุมเชื้อเพลิงถูกออกแบบมาให้ไม่สามารถใช้งานได้โดยไม่ตั้งใจ
สวิตช์ควบคุมเชื้อเพลิงถูกออกแบบมาให้ไม่สามารถใช้งานได้โดยไม่ตั้งใจ

...


ไม่มีทางเผลอตัดน้ำมันได้?


รายงานการสืบสวนนี้ไม่ได้บอกชัดเจนว่า สวิตช์เชื้อเพลิงปิดระหว่างบินได้อย่างไร โดยไม่รู้ว่าเป็นการจงใจ, อุบัติเหตุ หรือเหตุขัดข้องทางเทคนิค

สวิตช์ควบคุมเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ 1 และ 2 ของ โบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์นั้น ติดตั้งอยู่คู่กันระหว่างเก้าอี้นักบินทั้งสองตัว และอยู่ใต้คันเร่งเครื่องบิน (throttle lever) พอดี โดยมีบาร์เหล็กขนาดเล็กป้องกัน 2 ข้างของสวิตช์เอาไว้

สวิตช์นี้เป็นตัวควบคุมการไหลของเชื้อเพลิงเข้าสู่เครื่องยนต์ โดยนักบินจะใช้เพื่อเริ่มเดินเครื่องหรือปิดเครื่องยนต์บนภาคพื้นดิน หรือปิดหรือเปิดเครื่องยนต์ขึ้นมาใหม่ในกรณีเครื่องยนต์ล้มเหลวระหว่างเที่ยวบิน โดยสวิตช์ควบคุมเชื้อเพลิงมีระบบพลังงานและระบบสายไฟแยกเป็นของตัวเอง

การควบคุมสวิตช์นี้ต้องใช้แรงคนในการยกคันสวิตช์ขึ้นมา แล้วโยกไปด้านบนหรือล่าง เนื่องจากมันถูกออกแบบมาอย่างตั้งใจ ให้ไม่สามารถเผลอไปโยกได้โดยไม่ตั้งใจอย่างเด็ดขาด

จอฟฟรีย์ เดลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศ ซึ่งร่วมสืบสวนอุบัติเหตุทางอากาศมาแล้วหลายกรณี บอกกับสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น ว่า เป็นเรื่องยากที่สวิตช์เชื้อเพลิงทั้ง 2 ตัวจะถูกปิดด้วยความผิดพลาด “มันต้องใช้การกระทำอย่างน้อย 2 ขั้นตอนในการสับสวิตช์แต่ละตัว คุณต้องดึงสวิตช์เข้าหาตัวแล้วโยกมันลงมา ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะทำโดยไม่ตั้งใจได้”

นอกจากนั้นยังเป็นเรื่องแปลกมากที่นักบินจงใจตัดเชื้อเพลิงเครื่องบินทั้งสองตัวทันทีหลังเครื่องขึ้นบิน “มันไม่มีสถานการณ์ใดเลยบนโลกใบนี้ที่คุณต้องทำมันทันทีหลังเครื่องยกตัวขึ้น” เดลล์กล่าว

เขายังตั้งข้อสังเกตเรื่องที่ สวิตช์เครื่องยนต์ 2 ตัวถูกสับห่างกันเพียง 1 วินาที “นั่นเป็นสิ่งที่คนทำเมื่อคุณจอดเครื่องบิน ณ จุดสิ้นสุดของการบิน คุณนำเครื่องไปจอดในเทอร์มินอลแล้วปิดเครื่องยนต์”

หนึ่งในความเป็นไปได้ที่รายงานการสืบสวนหยิบยกขึ้นมาคือ ข้อมูลจากประกาศเมื่อปี 2561 ของสำนักงานบริหารการบินกลางของสหรัฐฯ (FAA) ว่า “มีโอกาสที่ระบบล็อกของสวิตช์เชื้อเพลิงจะหลุดพ้นจากการควบคุม” แต่กรณีดังกล่าวไม่ถูกจัดเป็นสถานการณ์ไม่ปลอดภัย แอร์อินเดียจึงไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้

เดลล์บอกด้วยว่า อุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินควรช่วยอธิบายได้ว่า เหตุใดสวิตช์ควบคุมเชื้อเพลิงจึงถูกสับในแต่ละกรณี แต่ AAIB ไม่ได้เผยบทสนทนาทั้งหมดระหว่างนักบินทั้งสองคน ซึ่งทำให้เป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจกว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่


...

นายราม โมฮาน ไนดู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการบินพลเรือนของอินเดีย
นายราม โมฮาน ไนดู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการบินพลเรือนของอินเดีย


อย่าเพิ่งโทษนักบิน


ด้าน เอห์ซาน คาลิด อดีตนักบิน ก็เชื่อว่า รายงานนี้ทำให้เกิดการตั้งคำถามเรื่องตำแหน่งของสวิตช์ควบคุมเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ ซึ่งที่จริงเจ้าหน้าที่สืบสวนควรให้คำตอบได้อย่างชัดเจน

คาลิดเตือนระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว รอยเตอร์ส เรื่องการกล่าวโทษไปที่นักบิน โดยย้ำว่า สำหรับเขาแล้ว รายงานของ AAIB เป็นเพียงการสรุปที่บอกว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะเครื่องยนต์ทั้งสองตัวสูญเสียกำลัง “นักบินทั้งคู่ตระหนักดีว่าเครื่องยนต์สูญเสียกำลัง และนักบินทั้งคู่ก็รู้ตัวว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”

นายราม โมฮาน ไนดู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการบินพลเรือนของอินเดีย กล่าวว่า ยังต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะเผยแพร่รายงานฉบับเต็มได้ และอย่าเพิ่งด่วนสรุปใดๆ ในเวลานี้เลย




ผู้เขียน : ทิตชนม์ สว่างศรี

ที่มา : cnn , cna

...