รัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ พบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อกาฬโรคปอดรายแรกในรอบหลายปี โดยยืนยันว่า ความเสี่ยงต่อสังคมยังคงต่ำ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในรัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ ยืนยันว่า พบผู้อยู่อาศัยในเขตโคโคนิโน เคาน์ตี คนหนึ่ง เสียชีวิตจากการติดเชื้อ “กาฬโรคปอด” เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 18 ปี ที่พบผู้เสียชีวิตจากเชื้อดังกล่าวในเคาน์ตีนี้
อนึ่ง ย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 14 กาฬโรคเคยเป็นที่รู้จักกันในชื่อโรค “กาฬมรณะ” (Black Death) มันแพร่ระบาดสังหารประชากรยุโรปไปครึ่งทวีป แต่ตอนนี้มันกลายเป็นโรคที่พบในมนุษย์ได้ยากแล้ว และสามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ โดยเฉลี่ยจะมีผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ เพียงปีละ 7 รายเท่านั้น
รัฐบาลของเขตโคโคนิโน เคาน์ตี ระบุยืนยันว่า ความเสี่ยงที่สังคมจะสัมผัสกับโรคนี้นั้นยังคงต่ำ พร้อมกับแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ตายเพิ่มเติม เพื่อความเป็นส่วนตัวของครอบครัวของเขาหรือเธอ
กาฬโรคมีหลายรูปแบบ เช่น กาฬโรคต่อมน้ำเหลืองซึ่งบ่อยที่สุด มีสาเหตุเกิดจากการถูกเห็บหมัดที่ติดเชื้อกัด ส่วนกาฬโรคปอดคือการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดเดียวกันคือ “เยอซิเนีย แพสทิส” (Yersinia pestis) ที่ปอดและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โดยกาฬโรคปอดเป็นรูปแบบที่อันตรายที่สุดและไม่พบเจอบ่อยนัก
อาการป่วยของกาฬโรคต่อมน้ำเหลืองในมนุษย์มักจะแสดงออกมาภายใน 2-8 วันหลังติดเชื้อ เช่น มีไข้สูง, หนาวสั่น, ปวดหัว, อ่อนแรง และต่อมน้ำเหลืองบวม
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
...
ที่มา : bbc