บริษัทน้ำมันของรัฐและบริษัทเกษตรกรรมของอินโดนีเซีย ได้ลงนามข้อตกลงเพื่อเพิ่มการซื้อพลังงานและสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ ขณะที่กำลังวางแผนเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการประกาศเก็บภาษีนำเข้า 32% ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

รัฐมนตรีเศรษฐกิจของอินโดนีเซียกล่าวว่า บริษัทน้ำมันของรัฐและบริษัทเกษตรกรรมของอินโดนีเซีย ได้ลงนามข้อตกลงเพื่อเพิ่มการซื้อพลังงานและสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ ขณะที่กำลังวางแผนเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้า 32% ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ทรัมป์ขู่เก็บภาษีนำเข้าจากอินโดนีเซีย 32% นอกเหนือจากภาษีพื้นฐาน 10% หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ภายในวันที่ 1 ส.ค.

แอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต รัฐมนตรีเศรษฐกิจซึ่งเดินทางไปกรุงวอชิงตันดีซี เพื่อเจรจาการค้า กล่าวว่า บริษัทเปอร์ตามินา ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาล ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจที่ให้คำมั่นว่าจะซื้อสินค้าพลังงานจากสหรัฐฯ มากขึ้น โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม ด้านบริษัทเกษตรกรรม Sorini Agro Asia Corporindo ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมโรงสีข้าวโพดของอินโดนีเซีย และ FKS Group ยังได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อเพิ่มการซื้อสินค้าดังกล่าวด้วย

นายฮาร์ตาร์โตไม่ได้เปิดเผยมูลค่าของข้อตกลงที่ลงนามในกรุงวอชิงตันดีซี แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาบอกกับนักข่าวว่าธุรกิจของอินโดนีเซียจะตกลงใช้จ่ายทั้งหมดมูลค่า 34,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

สถานทูตอินโดนีเซียในกรุงวอชิงตันดีซี กล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างการประชุมในกรุงวอชิงตันเมื่อวันที่ 8 ก.ค.

"การประชุมดังกล่าวส่งผลให้เกิดข้อตกลงทางการค้าหลายรายการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากการลงนามบันทึกความเข้าใจหลายฉบับ ซึ่งช่วยปูทางไปสู่โอกาสความร่วมมือใหม่ๆ และกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจทวิภาคี"

...

บริษัทด้านอาหารของสหรัฐฯ อย่าง  "คาร์กิลล์" (Cargill) ยืนยันในแถลงการณ์ว่าข้อตกลงดังกล่าวรวมถึงบันทึกความเข้าใจสำหรับการซื้อข้าวโพด

ข้อมูลจากสำนักงานตัวแทนการค้าของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าการขาดดุลการค้าสินค้าของสหรัฐฯ กับอินโดนีเซียอยู่ที่ 17,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 เพิ่มขึ้น 5.4% จากปีก่อน.


ที่มา CNA

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign