ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เตือนว่า ประเทศที่สนับสนุนนโยบายของกลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS) ที่ขัดต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มอีก 10%
ทรัมป์แสดงการวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS) มาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งเป็นกลุ่มที่สมาชิกประกอบด้วย บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน และ แอฟริกาใต้ โดยกลุ่มนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมสถานะระหว่างประเทศของประเทศต่างๆ และท้าทายสหรัฐฯ และยุโรปตะวันตก
ทรัมป์เขียนบนโซเชียลมีเดียว่า "ประเทศใดก็ตามที่สนับสนุนนโยบายต่อต้านสหรัฐฯ ของกลุ่มบริกส์ จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มอีก 10% นโยบายนี้ไม่มีข้อยกเว้น" ขณะที่กำหนดเส้นตายสำหรับประเทศต่างๆ ที่จะตกลงกันเรื่องข้อตกลงภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ เดิมคือวันที่ 9 กรกฎาคม แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่าจะเริ่มในวันที่ 1 สิงหาคม
จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้ากับอังกฤษและเวียดนามเท่านั้น อย่างไรก็ตาม อังกฤษและสหรัฐฯ ยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องภาษีเหล็กของอังกฤษที่สหรัฐฯ นำเข้า
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม ทรัมป์ได้ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่นๆ หลายรายการ โดยให้เหตุผลว่าภาษีเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการผลิตของสหรัฐฯ และปกป้องการจ้างงาน และเมื่อเดือนเมษายน ในวันที่เรียกว่า "วันปลดปล่อย" เขาได้ประกาศเก็บภาษีสินค้าจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกหลายรายการ แม้ว่าเขาจะระงับแผนการดังกล่าวอย่างรวดเร็ว เพื่อให้มีเวลาเจรจากันสามเดือนจนถึงวันที่ 9 กรกฎาคมก็ตาม
เมื่อถูกถามว่าภาษีจะเปลี่ยนไปในวันที่ 9 กรกฎาคมหรือ 1 สิงหาคม ทรัมป์ตอบในวันอาทิตย์ว่า "ภาษีจะเป็นภาษีศุลกากร"
เขากล่าวเสริมว่าในวันจันทร์ (7 ก.ค.) จะมีจดหมายประมาณ 10 ถึง 15 ฉบับส่งถึงประเทศต่างๆ เพื่อแจ้งให้ทราบว่าอัตราภาษีศุลกากรใหม่จะเป็นเท่าใด หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ด้านนายโฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ชี้แจงว่าภาษีศุลกากรดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม
...
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสก็อตต์ เบสเซนต์ กล่าวกับซีเอ็นเอ็น ว่า "ประธานาธิบดีทรัมป์จะส่งจดหมายถึงหุ้นส่วนการค้าของเราบางราย โดยระบุว่า หากคุณไม่ดำเนินการใดๆ ในวันที่ 1 สิงหาคม ภาษีศุลกากรจะกลับไปสู่ระดับเดิมในวันที่ 2 เมษายน"
การคุกคามของทรัมป์ต่อประเทศต่างๆ ที่ทำงานร่วมกับกลุ่มประเทศบริกส์เกิดขึ้นหลังจากที่สมาชิกวิพากษ์วิจารณ์นโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ รวมถึงเสนอการปฏิรูปกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และการประเมินมูลค่าสกุลเงินหลัก
เมื่อปีที่แล้ว รายชื่อสมาชิกกลุ่มประเทศบริกส์ ขยายออกไปนอกบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ รวมไปถึงอียิปต์ เอธิโอเปีย อินโดนีเซีย อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยประเทศต่างๆ ในกลุ่มนี้มีจำนวนประชากรคิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลก.
ที่มา BBC
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign