รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประเทศที่ไม่ได้ทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ จะเผชิญกับภาษีต่างตอบแทนในวันที่ 1 ส.ค.นี้
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ก.ค. 2568 นายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวว่า ประเทศต่างๆ ที่ไม่ได้ทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ภายในวันที่ 1 ส.ค.นี้ จะเผชิญกับภาษีต่างตอบแทน (reciprocal tariff) ในอัตราเดียวกับที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อ 2 เม.ย.
นี่นับเป็นการประกาศเส้นตายใหม่สำหรับให้ประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ เจรจาข้อตกลงการค้ากับโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อหลีกเลี่ยงกำแพงภาษีก้อนโต ถึงแม้นายเบสเซนต์จะยืนยันว่า นี่ไม่ใช่เส้นตายใหม่ก็ตาม
ทั้งนี้ เมื่อเดือนเมษายน นายทรัมป์ตั้งกำแพงภาษีพื้นฐานกับสินค้านำเข้าจากประเทศคู่ค้าเกือบทั้งหมดที่ 10% และตั้งกำแพงภาษีต่างตอบแทนกับประเทศคู่ค้าที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าด้วยอีก 25% ถึง 50% แต่นายทรัมป์สั่งระงับมาตรการภาษีต่างตอบแทนเป็นเวลา 90 วัน เพื่อเปิดทางเจรจาการค้า แต่เส้นตายกำลังจะมาถึงในวันที่ 9 ก.ค.นี้
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายทรัมป์กล่าวว่า เขาได้ลงจดหมายแจ้งอัตรากำแพงภาษีต่างตอบแทนแล้วจำนวนหนึ่ง และจะส่งมันให้กับ 12 ประเทศในวันจันทร์ที่ 7 ก.ค. และจะส่งเพิ่มเติมหลังจากนั้น
นายทรัมป์กล่าวว่าเขาชอบวิธีส่งจดหมายแบบนี้มากกว่าการเจรจา หลังจากช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ ทำข้อตกลงการค้าได้เพียง 3 ฉบับเท่านั้น จากทั้งหมดกว่า 90 ฉบับที่รัฐบาลสัญญาเอาไว้
ต่อมาในวันอาทิตย์ นายเบสเซนต์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น วา จดหมายดังกล่าวจะทำให้เป็นที่ชัดเจนว่า หากไม่มีข้อตกลง อัตราภาษีจะย้อนกลับไปสู่ระดับที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเมื่อ 2 เม.ย.
...
“นี่ไม่ใช่เส้นตายใหม่ เรากำลังบอกว่า นี่คือเวลาที่มันจะเกิดขึ้น หากคุณต้องการเร่งมือ ก็รีบเข้า หากคุณอยากให้อัตราภาษีกลับไปเป็นแบบเดิม นั่นก็เป็นการเลือกของคุณเอง” นายเบสเซนต์กล่าว และแย้มด้วยว่า จะมีกิจกรรมที่มีนัยสำคัญเกิดขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
“เราเข้าใกล้ข้อตกลงอีกหลายฉบับแล้ว และเหมือนทุกครั้ง มีการเตะถ่วงมากมายจากอีกฝ่าย” นายเบสเซนต์กล่าว “ผมคาดว่าจะได้เห็นการประกาศเรื่องใหญ่หลายครั้งในช่วง 2 วันข้างหน้า”
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : axios