อิหร่านจัดรัฐพิธีศพให้แก่ผู้บัญชาการกองทัพและนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์หลายสิบคน ที่เสียชีวิตในการโจมตีของอิสราเอลระหว่างสงคราม 12 วัน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย. 2568 อิหร่านจัดรัฐพิธีศพให้แก่บุคคลสำคัญราว 60 คน รวมถึงผู้บัญชาการกองทัพกับนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์อีกหลายคน ที่ถูกสังหารระหว่างการต่อสู้กับอิสราเอลนาน 12 วัน ก่อนที่ความขัดแย้งจะหยุดลงหลังจากทั้งสองฝ่ายทำข้อตกลงหยุดยิงเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
สถานีโทรทัศน์ของอิหร่านออกอากาศภาพของประชาชนในชุดสีดำจำนวนหลายหมื่นคนเดินขบวนแห่โลงศพซึ่งถูกคลุมไว้ด้วยธงชาติ ที่จัตุรัสเอนเกลับ (Enghelab) ในกรุงเตหะราน พร้อมตะโกนข้อความสาปแช่งสหรัฐฯ กับอิสราเอล ขณะที่ในมือของพวกเขามีภาพของเหล่าผู้วายชนม์
นายมาซูด เปเซชเคียน ประธานาธิบดีอิหร่าน เข้าร่วมพิธีศพด้วย เช่นเดียวกับ พลเรือตรี อาลี ชามคานี ที่ปรึกษาอาวุโสของอยาตอลลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน โดยนายพลชามคานีต้องใช้ไม้เท้าในการช่วยเดิน หลังจากเขาได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของอิสราเอลในสงคราม 12 วัน
นายคาเมเนอีไม่ได้มาร่วมในพิธีด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย โดยเขาซ่อนตัวมาตลอดหลังจากอิสราเอลเปิดฉากโจมตีเมื่อ 13 มิ.ย. และเพิ่งปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 มิ.ย. ในข้อความวิดีโอซึ่งเขาประกาศชัยชนะเหนือทั้งสหรัฐฯ และอิสราเอล และว่าการโจมตีของอิสราเอลสร้างความเสียหายแก่โรงงานนิวเคลียร์ไม่หนักอย่างที่ โดนัลด์ ทรัมป์ อ้าง
ในขณะที่พิธีศพดำเนินไป นายอับบาส อารัคชี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรม สรรเสริญความพยายามของประเทศในการต่อสู้กับอิสราเอล “อิหร่านยอมสละเลือด แต่ไม่ยอมเสียดินแดน ยอมสละผู้เป็นที่รัก แต่ไม่ยอมเสียเกียรติ พวกเขาต้านทานห่าฝนระเบิดนับพันตัน แต่ไม่ยอมแพ้”
...
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เสียชีวิตในสงคราม 12 วันรวมถึง พลตรี โมฮัมหมัด บาเกรี เสนาธิการกองทัพ ผู้เสียชีวิตพร้อมกับภรรยาและลูกสาวซึ่งเป็นนักข่าว นอกจากนั้นยังมีนาย โมฮัมหมัด เมห์ดี เตห์รานชี นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ของอิหร่าน และนายฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามอิหร่าน (IRGC)
ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุในข้อความซึ่งโพสต์ผ่าน Truth Social เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เขาล้มเลิกความคิดเรื่องการผ่อนคลายการคว่ำบาตรให้แก่อิหร่าน หลังจากนายคาเมเนอีมีข้อความประกาศชัยชนะดังกล่าว
“ผมรู้ดีว่าเขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน แต่ไม่ยอมให้อิสราเอลหรือกองทัพสหรัฐฯ เอาชีวิตของเขา” นายทรัมป์ระบุ “ผมช่วยเขาจากความอันน่ารังเกียจและน่าอดสู แต่เขาไม่พูดว่า ‘ขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์!’ ด้วยซ้ำ”
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cna