สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา โพสต์ข้อความยาวเหยียด ตั้งคำถามว่าใครกันแน่คือผู้รุกราน และอ้างว่าเตรียมแฉแผนการลับของนายทักษิณ ชินวัตร ในวันพรุ่งนี้
เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 26 มิ.ย. 2568 เพจเฟซบุ๊กของสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา โพสต์ข้อความยาวเหยียดเน้นย้ำว่า ไทยคือฝ่ายที่รุกรานกัมพูชา พร้อมระบุว่าความสัมพันธ์ 2 ฝ่ายอยู่ในจุดสูงสุดในยุคนายกรัฐมนตรีคนก่อน และเขาเตรียมเปิดเผยข้อมูลลับเกี่ยวกับนายทักษิณ ชินวัตร ในวันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.)
ข้อความของ ฮุน เซน ระบุว่า เมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 26 มิ.ย. 2568 สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชาเดินทางตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนผู้อาสาอพยพไปที่ศูนย์หลบภัย ในจังหวัดพระวิหาร โดยระบุว่า การมาที่นี่ย้ำเตือนให้เข้าใจว่าอะไรคือสันติและอะไรคือสงคราม อดีตอันเลวร้ายของกัมพูชา ที่ตอนนี้สะท้อนกลับมาอีกครั้งด้วยการรุกรานของประเทศเพื่อนบ้าน
วันนี้สมเด็จฯ ฮุน เซนได้ประกาศต่อนานาชาติว่า “กัมพูชาหรือไทย ใครรุกรานใคร?” ไทยได้อพยพประชาชนจากชายแดนเพราะการรุกรานของกัมพูชาหรือไม่? สมเด็จฯ ฮุน เซน ระบุว่าชาวกัมพูชาเป็นเหยื่อของความก้าวร้าวของทหารไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้า และอยากให้ชาวต่างชาติผู้รักสันติและความจริงทุกคนได้เห็นการรุกรานของไทยอย่างชัดเจน กัมพูชาต้องการเป็นมิตร แต่ไทยกลับรุกรานกัมพูชาตั้งแต่ปี 2551-2556
ฮุน เซน บอกอีกว่า ในช่วงเกือบ 10 ปี ตั้งแต่ 2557-2566 กัมพูชาไม่มีปัญหากับไทยเลย เขาทำงานร่วมกันอย่างดีกับนายกรัฐมนตรีคนก่อน แต่หลังจากนายกรัฐมนตรีคนนี้รับตำแหน่งเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ก็มีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย โดยในวันพรุ่งนี้ 27 ก.ค. สมเด็จฯ ฮุน เซนจะมีแถลงการณ์ต่อทั้งชาวกัมพูชาและชาวไทยเกี่ยวกับปัญหาชายแดนและความสัมพันธ์ครอบครัวระหว่าง เขากับครอบครัวของ น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรีไทย
...
ฮุน เซน เตือนด้วยว่า จะเปิดเผยข้อความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของนายทักษิณ ชินวัตร รวมถึงเรื่องการดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย ฮุน เซนยังแสดงความเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และว่าก่อนที่เขาจะเริ่มยุทธศาสตร์สามเหลี่ยมมรกต เขาตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่สมรภูมิเก่าเป็นเขตพัฒนา ซึ่งรัฐบาลตัดสินใจสร้างหมู่บ้านให้ผู้ที่อาศัยอยู่ตอนนี้ และมีอีกเป้าหมายคือเปลี่ยนพื้นที่ชายแดนทั้งหมดเป็นพื้นที่มิตรภาพ, สันติ, ความร่วมมือ และพัฒนา ซึ่งใช้เวลาเกือบ 30 ปีในการบรรลุเป้าหมายทั้งสอง
ฮุน เซน ย้ำด้วยว่า ผู้มีอำนาจบัญชาการกองทัพกัมพูชาคือนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารสูงสุด ส่วนตัวฮุน เซน นั้นออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปบัญชาการกองทัพด้วยตัวเอง แต่เขาตัดสินใจรับตำแหน่ง ผู้รับผิดชอบสูงสุดในการส่งกำลังบำรุง (logistics) ถึงแนวหน้า เพื่อจัดส่งเสบียงและยุทโธปกรณ์ให้แก่กองทัพเพื่อทำลายชาวสยามผู้รุกราน
โพสต์ของฮุน เซน ระบุอีกว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน ไม่เพียงเป็นผู้บัญชาการแต่เป็นผู้สร้างกองทัพที่เอาชนะพล พต (ผู้นำเขมรแดง) พร้อมส่งข้อความถึงไทยว่า อย่าลืมประวัติศาสตร์ อย่าบิดเบือนประวัติศาสตร์ คุณต้องเคารพข้อตกลง หากคุณไม่เคารพข้อตกลง คุณก็เหมือนกับโจร น่าเศร้าที่ต้องเห็นสตรีมีครรภ์ และผู้พิการ ต้องหลบหนีเพราะไทยรุกรานกัมพูชา
ฮุน เซน ระบุอีกว่า ความขัดแย้งทางการเมืองในกรุงเทพฯ จะส่งผลไปถึงความขัดแย้งชายแดนกับกัมพูชาด้วย ซึ่งเขาขอเตือนนายทักษิณให้แนะนำลูกสาว ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย ไม่ให้ดูหมิ่นผู้อื่น โดยฮุน เซน กำลังรอดูแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีไทยคนใหม่ เพราะไทยจะมีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหากับกัมพูชาก็ต่อเมื่อมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่เท่านั้น
ฮุน เซนยังเรียกร้องให้ประชาชนในหมู่บ้านต่างๆ เตรียมหลุมหลบภัยเอาไว้ เผื่อกรณีไทยโจมตีกัมพูชา และแนะนำให้เจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด, อำเภอ, ตำบล และหมู่บ้านช่วยเตรียมที่พักชั่วคราวให้แก่ประชาชนด้วย นอกจากนั้นฮุน เซน ยังเรียกร้องให้ประชาชนในพื้นที่อพยพดูแลเรื่องความสะอาดและปกป้องตนเอง โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์เพราะตอนนี้มี 2 ชีวิตอยู่ในคนคนเดียวแล้ว
ฮุน เซนยังแนะนำให้เจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดเตรียมทีมแพทย์ให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ โดยกระทรวงสาธารณสุข, สภากาชาด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรรับผิดชอบร่วมกันเพื่อช่วยชาวกัมพูชา
โพสต์ของ ฮุน เซน ระบุด้วยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาในยุคนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในจุดสูงสุด ตอนนี้ไทยมีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมด พร้อมย้ำด้วยว่า ไทยเป็นฝ่ายปิดพรมแดนก่อน จากนั้นกัมพูชาจึงปิดตาม และฮุน เซน คาดด้วยว่า ไทยจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ใน 3 เดือนข้างหน้า
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : facebook-hunsen