มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย และได้รับบาดเจ็บหลายรายจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนของรัสเซียเมื่อคืนนี้ในภูมิภาคเคียฟ
อิกอร์ คลีเมนโก รัฐมนตรีมหาดไทยยูเครนเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ศพ และได้รับบาดเจ็บหลายรายจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนของรัสเซียเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) ในภูมิภาคเคียฟ นายคลีเมนโก ระบุในโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่าพื้นที่อยู่อาศัย โรงพยาบาล และโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬาได้รับผลกระทบ และกล่าวว่าประชาชนอาจยังคงอยู่ใต้ซากปรักหักพัง หลังการโจมตีเมื่อคืนนี้สร้างความเสียหายใน 6 จาก 10 เขตของเมือง
วิทาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ กล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คนในเขตเชฟเชนคิฟสกี อันพลุกพล่านของกรุงเคียฟ ซึ่งอาคารที่พักอาศัยที่เป็นอาคารสูงส่วนหนึ่งได้รับความเสียหายทั้งหมด และมีเด็ก 4 คน อยู่ในกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีครั้งนี้ 25 คน
ทิมูร์ ทคาเชนโก หัวหน้าฝ่ายบริหารทหารของเคียฟ กล่าวผ่านเทเลแกรมว่า "สไตล์ของรัสเซียยังคงเหมือนเดิม คือ การโจมตีในที่ที่อาจมีคนอาศัยอยู่ เช่นอาคารที่อยู่อาศัย ทางออกจากที่พักพิง เป็นการโจมตีแบบฉบับของรัสเซีย"
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียได้โจมตีทางอากาศอย่างหนักในเมืองต่างๆ ของยูเครน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กำลังเดินทางไปยังกรุงลอนดอนเพื่อหารือเกี่ยวกับความขัดแย้งในช่วงบ่ายวันนี้ (23 มิ.ย.)
กองทัพอากาศยูเครนกล่าวว่า ในการโจมตีครั้งล่าสุด โดรนของรัสเซีย 352 ลำ และขีปนาวุธ 16 ลูกโจมตีดินแดนของยูเครน โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เคียฟ หน่วยบริการฉุกเฉินของยูเครนได้เผยแพร่ภาพวิดีโอที่แสดงให้เห็นประชาชนที่อยู่ในอาการตกใจ ถูกนำตัวออกจากอาคารสูงที่ถูกทำลายซึ่งยังคงลุกไหม้อยู่
...
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่าทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินใต้ดินได้รับความเสียหาย ประชาชนจำนวนมากต้องนอนพักค้างคืนที่สถานีดังกล่าว และนอกจากผู้เสียชีวิตในกรุงเคียฟแล้ว ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตอีก 1 รายจากเหตุโดรนโจมตีโรงพยาบาลในเมืองบิลา เซอร์กวา ทางตอนใต้
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่กรุงเคียฟยังคงได้รับผลกระทบจากการโจมตีของรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28 ศพ และบาดเจ็บกว่า 100 ราย โดยการโจมตีครั้งนี้ถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดในกรุงเคียฟ นับตั้งแต่สงครามเต็มรูปแบบของรัสเซียเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2022.
ที่มา BBC
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign