เครื่องบินรบของอิสราเอลโจมตีโดนเตาปฏิกรณ์น้ำมวลหนักในภาคกลางของอิหร่าน โดยอ้างว่าโจมตีเพื่อหยุดไม่ให้มันถูกใช้ในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เครื่องบินรบของอิสราเอลทิ้งระเบิดโดนเตาปฏิกรณ์พลังงานน้ำมวลหนัก “อารัค” (Arak) ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างในภาคกลางของอิหร่าน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 มิ.ย. 2568 ซึ่งเป็นวันที่ 7 ที่ทั้งสองประเทศยิงอาวุธตอบโต้กัน

กองทัพอิสราเอลระบุว่า พวกเขาโจมตีเตาปฏิกรณ์อารัคเพื่อหยุดไม่ให้มันถูกใช้เพื่อการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

ทั้งนี้ ทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ยืนยันว่า เตาปฏิกรณ์อารัคโดนโจมตีจริง แต่ตัวปฏิกรณ์ไม่มีวัสดุนิวเคลียร์อยู่ อย่างไรก็ตาม เชื้อเพลิงใช้แล้วจากเตาปฏิกรณ์นี้ มีส่วนผสมของแร่พลูโตเนียม ซึ่งสามารถนำไปใช้เพื่อพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ได้

เตาปฏิกรณ์อารัค เป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงที่อิหร่านทำไว้กับชาติมหาอำนาจในปี 2558 โดยอิหร่านตกลงจะออกแบบและสร้างเตาปฏิกรณ์แห่งนี้ใหม่ เพื่อไม่ให้มันสามารถผลิตพลูโตเนียมเกรดอาวุธได้ และในปีต่อมา IAEA ยืนยันว่า อิหร่านได้ถอดแกนปฏิกรณ์ออกจากอารัค และทำให้มันใช้การไม่ได้แล้ว

รายงานฉบับไตรมาสล่าสุดของ IAEA ระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม มีการก่อสร้างเล็กน้อยเกิดขึ้นที่เตาปฏิกรณ์แห่งนี้ และอิหร่านคาดว่าอารัคจะเริ่มเดินเครื่องได้ในปีนี้ และเริ่มผลิตไฟฟ้าได้ในปี 2569

อย่างไรก็ตาม กองทัพอิสราเอลอ้างว่า รัฐบาลอิหร่านออกคำสั่งคนงานไม่ให้ทำการเปลี่ยนแปลงเตาปฏิกรณ์แห่งนี้จนเสร็จสิ้น เพื่อสร้างแรงกดดันให้แก่ชาติตะวันตก และการโจมตีล่าสุดของพวกเขามุ่งเป้าหมายไปที่องค์ประกอบสำหรับการผลิตพลูโตเนียม เพื่อไม่ให้เตากลับมาใช้การได้ และถูกใช้เพื่อพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

...

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc