เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ นอกจากมีศิลปะวัฒนธรรมที่น่าสนใจหลายอย่าง เนื่องจากมีการอยู่ร่วมกันของกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลาย ที่นี่ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ และอนุรักษ์ม้าเหงื่อโลหิต ม้าสายพันธุ์หนึ่งที่รู้จักในตำนานว่ามีเหงื่อสีแดงคล้ายเลือดเมื่อวิ่งอีกด้วย
ม้าสายพันธุ์นี้มีความสง่างาม ทนทาน และมีชื่อเสียงในเรื่องความเร็ว ทำให้เป็นที่ต้องการในฐานะม้าศึกและม้าแข่ง ม้าเหงื่อโลหิตยังเคยถูกเอ่ยถึงในวรรณคดีเรื่อง สามก๊ก โดยเชื่อกันว่า ม้าที่ชื่อเซ็กเธาว์ ที่โจโฉได้มาก็คือม้าเหงื่อโลหิต
ม้าพันธุ์นี้บางครั้งถูกเรียกว่าม้าสวรรค์ มีต้นกำเนิดทั้งที่จีนและเติร์กเมนิสถาน โดยสมัยราชวงศ์หยวน กองทัพของเจงกิสข่านที่พิชิตไปเกือบครึ่งโลก ก็เพราะใช้ม้าเหงื่อโลหิตที่สืบเผ่าพันธุ์ในจีนมาเป็นเวลากว่าพันปี แต่หลังราชวงศ์หยวน ม้าเหงื่อโลหิตลดจำนวนลงจนแทบจะเหลือเพียงแค่ในตำนาน จนกระทั่งเดือนมิถุนายน ปี 2002 ประธานาธิบดีแห่งเติร์กเมนิสถาน ได้มอบม้าเหงื่อโลหิตให้แก่ประธานาธิบดีเจียงเจ๋อหมินของจีน เป็นของขวัญสำหรับมิตรภาพของทั้งสองประเทศ
...
ลักษณะเด่นของม้าเหงื่อโลหิต จะมีรูปร่างเพรียวบาง สง่างาม กล้ามเนื้อสวยงาม ส่วนขนจะทอประกายและเป็นมันวาว อีกคุณสมบัติหนึ่งที่สำคัญก็คือความสามารถในการวิ่งระยะไกลและทนต่อสภาพอากาศที่รุนแรง วิ่งได้เร็วและคล่องแคล่ว คุณสมบัติเหล่านี้ จึงทำให้ม้าเหงื่อโลหิตเป็นที่สนใจและเป็นที่ต้องการของนักเลี้ยงม้าและผู้ที่ชื่นชอบม้าทั่วโลก
หากได้มาซินเจียง และอยากมาเจอและสัมผัสม้าเหงื่อโลหิตของจริง แนะนำให้มาที่ อุทยานเชิงนิเวศโบราณซินเจียง (xinjiang Ancient Ecological Park) ซึ่งนอกจากจะได้เห็นด้วยตาแล้ว ยังสามารถให้อาหาร หรือขึ้นขี่ม้าสายพันธุ์พิเศษนี้ได้ด้วยตัวเอง
ตู้ เสวี่ยเหมย ผู้อำนวยการของฝ่ายประชาสัมพันธ์ เหยหม่า คอร์ป เจ้าของอุทยานโบราณแห่งนี้ ให้สัมภาษณ์ว่า ที่นี่มีม้าเหงื่อโลหิตอยู่ในความดูแลมากกว่า 500 ตัว แต่ละตัวมีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านหยวน แต่ที่นี่ไม่มีมีจุดประสงค์เพราะพันธุ์เพื่อขาย แต่เพื่ออนุรักษ์และขยายพันธุ์สืบทอดเป็นมรดกแอันทรงคุณค่าให้ลูกหลาน
ที่อุทยานนี้นอกจากจะมีส่วนของฟาร์มม้าแล้ว ด้วยพื้นที่กว้างขวาง 32.29 เอเคอร์ ที่นี่ยังเป็นสถานที่รวบรวมและอนุรักษ์พันธุ์บรรพชีวินวิทยาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะจากภูมิประเทศทางธรณีวิทยา "สามเทือกเขาและสองแอ่งน้ำ" อันโดดเด่นของซินเจียง มีฐานอนุรักษ์ไม้กลายเป็นหินยุคจูราสสิก หอวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเส้นทางสายไหม หออนุสรณ์บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์เส้นทางสายไหม และพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์เส้นทางสายไหม โดยทางอุทยานได้ผสมผสานการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การสำรวจทางวัฒนธรรม และประสบการณ์พื้นบ้าน รวบรวมโบราณวัตถุธรรมชาติที่หายากของภูมิภาคตะวันตก และแก่นแท้ทางวัฒนธรรมของเส้นทางสายไหมโบราณและสมัยใหม่ไว้ภายในอุทยานอีกด้วย.
...
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign